ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บี้ "โยธา-ระบายน้ำ" ผลาญงบฯ

 บี้ “โยธา-ระบายน้ำ” ผลาญงบฯ

ข่าววันที่ 2 สิงหาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

 

 

** ตั้งโปรเจ็กต์ลม / ถมไม่เต็ม

** คาใจฉีกซองฯเอาของแพง

 

            ก.ก.วิสามัญฯ เฉ่งงบฯ 53 สุดเอือมฝ่ายบริหารไร้วินัยใช้งบฯ ทำภาษีประชาชนสูญเปล่า กาหัวสำนักการโยธา-สำนักการระบายน้ำ ข้องใจศูนย์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ ล้มประมูลเปิดใหม่เพื่อให้ได้ของแพงกว่า จี้ต้องมีคำตอบให้เจ้าของกระเป๋า-ประชาชน

 

            นายประเดิมชัย  บุญช่วยเหลือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตห้วยขวางในฐานะคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 เปิดเผยว่า กทม.ได้ยื่นร่างข้อบัญญัติฯให้สภากทม.พิจารณางบประมาณ 2553 จำนวน 41,588 ล้านบาท โดยคณะกรรมการวิสามัญฯได้ตั้งข้อสังเกตเหมือนกับการพิจารณางบประมาณของกทม.ครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อเสนอแนะที่สภากทม.ได้ให้ไปนั้น ฝ่ายบริหารกทม.แทบไม่ได้นำไปเป็นแนวทางในการพิจารณาเท่าที่ควร

            ทั้งนี้ การตั้งงบประมาณยังคงตั้งเพื่อเป็นเชื้อโดยขอไม่ถึง 10% ของจำนวนวงเงินทั้งโครงการ โครงการละ 1,000,000 บาท มีมากกว่า 10 โครงการ เป็นการของบประมาณแบบไม่มีแผนงานไม่มีรายละเอียด ทำให้สงสัยได้ว่าขอไปเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ เพื่อจะไปโยกให้กับโครงการอื่นที่ทำไปแล้วหรือไม่ ลักษณะนี้มองได้ว่าเป็นการกีดกันโครงการอื่นที่อาจมีความสำคัญทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่า ทำให้ขาดวินัยทางการเงินการคลัง หน่วยงานไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความพร้อม

            นายประเดิมชัยกล่าวว่า หลายโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากสภากทม.ก็ดำเนินการไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เชื่องช้าทำให้กทม.ต้องสูญเสียเงินงบประมาณกว่า 15 โครงการ ส่วนใหญ่จะอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการโยธา เช่น การก่อสร้างถนนที่ยังไม่มีการลงนามหาผู้รับจ้างโครงการ แต่จะให้เหตุผลว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดูแลประชาชน สุดท้ายก็ไม่คืบหน้ากลายเป็นดินพอกหางหมู

            การพิจารณางบประมาณในปี 2553 นี้ยังมีหลายจุดที่ต้องขอความกระจ่างจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ เช่น โครงการก่อสร้างศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ ของสำนักการระบายน้ำ ที่เป็นโครงการเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองในพื้นที่โครงการ ได้แก่ คลองบางซื่อ คลองเปรมประชากร คลองบางเขน ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตบางซื่อ และบางส่วนของเขตจตุจักร เขตดุสิต ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร ขนาดบำบัดน้ำเสีย 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มูลค่าก่อสร้างหลายพันล้านบาท ซึ่งมีการแบ่งการดำเนินการเป็น 3 สัญญา

            แต่ปรากฏว่ามีการร้องเรียนว่ามีการล็อกสเปกทำให้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เข้ามาตรวจสอบความผิดปกติจึงทำให้ยังไม่มีการดำเนินการอะไร 1 สัญญา ส่วนอีก 2 สัญญานั้น มีการประกวดราคาหาผู้รับจ้างไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 รวมมูลค่าทั้งสองสัญญา 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเมื่อเปิดซองประกวดราคาก็มีการเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางหลายร้อยล้านบาท ซึ่งถือว่ากทม.ได้รับประโยชน์ แต่ภายหลังสำนักการระบายน้ำกลับยกเลิกการประกวดราคานั้น และเปิดประกวดราคาใหม่ช่วงเดือนมิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมประกวดราคาเสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 10 กว่าล้านเท่านั้น

            จึงสงสัยว่าเหตุใดไม่เอาผลการประกวดราคาครั้งแรกที่มีการเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเมื่อสอบถามไปทางสำนักการระบายน้ำ ระหว่างการประชุมสภากทม.ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน คงต้องสอบถามอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงใจกับโครงการ เพราะประชาชนคนกทม.ต้องมีสิทธิรับรู้ว่าเงินภาษีที่เขาเสียไปนำไปใช้ประโยชน์ด้านใดบ้างส.ก.เขตห้วยขวางกล่าว

 

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=62&nid=43350
 


--
      Weblink
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น