ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"วุฒิสภา"ยอมผ่านร่างพ.ร.บ.กู้ 4 แสนล้านง่ายดาย คะแนนท่วม 110 ต่อ 21 ส.ว.แฉมีแบ่งเค้กงบ 3.2 หมื่นล้านไว้แล้ว

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 14:40:20 น.  มติชนออนไลน์

"วุฒิสภา"ยอมผ่านร่างพ.ร.บ.กู้ 4 แสนล้านง่ายดาย คะแนนท่วม 110 ต่อ 21 ส.ว.แฉมีแบ่งเค้กงบ 3.2 หมื่นล้านไว้แล้ว

"มาร์ค-กรณ์"โล่งอก สมาชิกวุฒิสภายอมผ่านร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านเรียบร้อยแล้ว ด้วยคะแนน 110ต่อ 21 เสียง งดออกเสียง 9 ไม่ลงคะแนน 1 ก่อนมีมติตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง 27 คน "กอร์ปศักดิ์-เรืองไกร"ร่วมด้วย กำหนดแปรญัตติ 7 วัน ส.ว.แฉมีการแบ่งสรรงบ3.2หมื่นล้านไว้แล้ว ยังไงก็เหมืนเอาสมาชิกสภาสูงเป็นตัวประกัน

 ส.ว.ค้านกม.กู้4แสนล.-แฉหักหัวคิว


ขณะที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมวุฒิสภา เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ... ในวาระที่ 1 วงเงิน 4 แสนล้านบาท ทั้งนี้ นายประสพสุขแจ้งต่อที่ประชุมว่ามีผู้แสดงความจำนงขออภิปราย 61 คน โดยใช้เวลาการอภิปรายไม่เกินคนละ 10 นาที


จากนั้น นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า รัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในช่วงที่ไม่เหมาะสม เพราะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวกว่าที่เป็นอยู่ แต่รัฐบาลดำเนินการคล้ายกับว่ากำลังจะบริหารราชการแผ่นดินในสภาวะที่ไม่เป็นปกติ นอกจากนี้ กว่าจะใช้เงินจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็อีก 2-3 ปีข้างหน้า จึงไม่จำเป็นในการกู้เงินในขณะนี้ การเสนอเช่นนี้ทำให้โอกาสในการตรวจสอบการใช้เงินมีน้อยมาก มีความมั่นใจได้อย่างไรว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณมหาศาลนี้ให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือกีดกันประชาชนบางกลุ่ม


นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี กล่าวว่า การกระจายงบประมาณที่ผ่านมามีการเร่ขายและเรียกรับผลประโยชน์ร้อยละ 10-20 โดยเฉพาะจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นที่มีการเฉลี่ยงบประมาณให้ ส.ส. 400 คน คนละ 25 ล้านบาท รวมเป็นประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเอาไปฝากไว้ที่กรมส่งเสริมฯและให้หน่วยงานทำเรื่องเบิกจ่ายตามสายงาน


 อีกกลุ่มเชียร์ให้รับอ้างเพื่อแก้ไข


นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า การใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านของรัฐบาลที่ผ่านมา หลายโครงการมีข้อน่ากังวล โดยเฉพาะปัญหาในโครงการชุมชนพอเพียง และยังพบข้อสงสัยในการปรับปรุงรถไฟจำนวน 6,000 ล้านบาทด้วย ไม่ทราบว่างบประมาณในส่วนนี้สอดคล้องกับโครงการรถไฟรางคู่ด้วยหรือไม่ จึงเห็นว่าหากวุฒิสภาไม่รับร่างไว้พิจารณาก็จะเสียโอกาสที่จะแก้ไขกฎหมาย หากวุฒิสภาไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะทำให้กฎหมายถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้ถือเป็นกฎหมายการเงิน ทำให้อาจมีการยกขึ้นมาได้ทันที ดังนั้น ส.ว.จะไม่ต่างอะไรกับฝ่ายค้านหากวุฒิสภารับวาระที่ 1 ไว้ไม่ได้หมายความว่าวุฒิสภาเห็นด้วย แต่รับไว้เพื่อแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ วุฒิสภามีเวลาแก้ไขถึง 45 วัน เชื่อว่าวุฒิสภาแห่งนี้จะสามารถทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้อย่างแน่นอน

 

"ถ้าสภาแห่งนี้ไม่รับร่างจะเสียประโยชน์เป็นอย่างยิ่งเพราะเหมือนกับว่าเราปฏิบัติหน้าที่ไม่เต็มที่ ที่ผ่านมาไม่เคยมี ส.ว.มีโอกาสพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายการเงิน และสามารถแก้ไขได้ จึงถือเป็นโอกาสดีที่วุฒิสภาจะตรวจสอบและปรับปรุงในฐานะสภาอาวุโส" นายไพบูลย์กล่าว


 หวั่นปัญหา "เยอะ-ยาว-ยุ่ง-แย่"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงบ่าย บรรดา ส.ว.ลุกขึ้นอภิปราย เนื้อหาคล้ายคลึงกัน โดยระบุว่า รัฐบาลไม่มีแผนงานการใช้เงินที่ชัดเจน การใช้เงินในลักษณะนี้เกรงว่า จะขาดการตรวจสอบ อาทิ นายจำนงค์ สวมประคำ ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการใช้เงินที่ไม่ผ่านระบบรัฐสภา การดำเนินการเช่นนี้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งน่าโดนตำหนิ เพราะมีหลายโครงการที่เสนอมาแล้วไม่มีเหตุผลพอ แต่คณะกรรมการกลั่นกรองก็ยังให้มีโครงการอยู่ ทั้งที่ขาดวัตถุประสงค์ ระยะเวลาการดำเนินการ การประเมินผลที่คาดว่าจะได้รับ ส่วนตัวคิดว่า เป็น 4 ย. คือ 1.เยอะคือ กู้จำนวนเยอะ 2.ยาวคือ ไม่รู้จะใช้หนี้หมดเมื่อไหร่ 3.ยุ่ง เพราะตรวจสอบยาก 4.แย่ คือจะเกิดกับรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารต่อไป

 

"กอร์ปศักดิ์" การันตี "โปร่งใส"


จากนั้น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ชี้แจงว่า แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้นจริง แต่เป็นการดีขึ้นจากสิ่งที่เลวในอดีต ทำให้จากเศรษฐกิจไม่ดี กลายเป็นไม่ดีน้อยลงเท่านั้น ขอยืนยันในเรื่องความโปร่งใส เพราะถึงจะเป็นเรื่องการจ่ายเงินนอกงบประมาณ แต่การออกเป็น พ.ร.บ. ครั้งนี้ก็เพื่อให้มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบสำหรับเงิน 4 แสนล้านบาท ในการลงทุนระยะกลางและระยาว


"กรณ์" ขออย่ากังวลอ้อนส.ว.ผ่าน


ต่อมาเวลา 16.45 น. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่า อิทธิพลของส.ว.มีมากต่อการทำงานของรัฐบาล ก่อนหน้านี้ที่ส.ว.ติงเรื่องเงินกู้ รัฐบาลก็ไปทำรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้นแล้ว 2 รอบ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ เร่งการกลั่นกรองโครงการ เร่งออกระเบียบการใช้เงิน โดยจะเอาไปใช้ในโครงการอื่นๆหรือโยกงบข้ามกระทรวง ข้ามหน่วยงานไม่ได้ และการประเมินโครงการว่า มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาคและช่วยเหลือประชาชนได้จริงหรือไม่ ตนไปประมาณ 10 จังหวัดในช่วงที่ผ่านมา พบความหลากหลายในความต้องการใช้งบประมาณ เช่น เรื่องการขยายโรงพยาบาลที่สุราษฎร์ธานี การบูรณะสถานที่ท่องเที่ยวที่สุโขทัย การสร้างเขื่อนกันน้ำท่วมที่เชียงใหม่ เป็นต้น ยังไม่นับถึงระบบชลประทานที่เกษตรกรต้องการ

 

นายกรณ์ กล่าวว่า สัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มที่จะดีขึ้น เป็นเพียงสัญญาณ โดยสัญญาณนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเอกชนเริ่มมั่นใจบทบาทรัฐบาลที่จะทำในครึ่งปีหลังซึ่งก็มาจากแผนไทยเข้มแข็งนั่นเอง มีนักวิชาการหลายคนมองเป็นบวก อาทิ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม เห็นว่า ครึ่งปีหลังแผนไทยเข้มแข็งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไปของแผนไทยเข้มแข็ง ภายในอาทิตย์หน้า สำนักงบประมาณจะเสนอแผนต่อครม. จากนั้นจะมาพิจารณารายละเอียดโครงการอีกครั้ง แล้วจึงจะเสนออนุมัติงบเพื่อดำเนินการใช้เงินทำโครงการได้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบโครงการ ตั้งแต่ขั้นประมูล ราคากลางที่จะใช้ในการประมูลนั้น สำนักงบฯเป็นผู้คำนวณ ฉะนั้นไม่แตกต่างจากระบบปกติ จึงสบายใจได้ แม้ส.ว.บางคนจะมองว่า เปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะทำอย่างไร แต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเพราะโครงการที่อนุมัติไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก และไม่ต้องกังวลเรื่องล็อคสเปค ส่วนถ้าเงินเหลือก็ต้องคืนคลัง ฉะนั้นขอให้มั่นใจในเจตนาของรัฐบาล และพิจารณาให้ผ่านร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้

 

 

..แฉ เงินกู้ 4 แสนล้าน แบ่งเค้กเรียบร้อยแล้ว

นายตวง อันทะไชย ส..สรรหา กล่าวว่า ส..หลายคนเห็นปัญหาของการจัดทำงบประมาณแบบนี้ และร่างพ...นี้เปรียบเหมือนร่างกาย แต่พ...ที่ผ่านวุฒิสภาก่อนหน้านี้เปรียบเหมือนหัวใจ อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งก็มีเบาะแสว่า มีงบจำนวน 3.2 หมื่นล้าน มีการแบ่งสรรโครงการกันไว้แล้ว ซึ่งหากวุฒิสภา ไม่ให้ผ่านในวาระ 1 ตามรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎรสามารถหยิบขึ้นมายืนยันได้ทันที ก็จะไปเข้าทางบางฝ่าย สรุปแล้วสถานการณ์นี้เหมือนจับวุฒิสภาเป็นตัวประกัน ฉะนั้น ขอเสนอให้หากรับร่าง ในชั้นกรรมาธิการ ขอพิจารณาโครงการ เพื่อการตรวจสอบไม่ให้งบประมาณรั่วไหล

 

 


รายงานข่าวจากส..แจ้งว่า สำหรับท่าทีของบรรดาส..ในช่วงค่ำก่อนการลงมติร่างพ... ปรากฏว่า ไม่คึกคักเหมือนวันที่วุฒิสภาพิจารณาพ...กู้เงิน 4 แสนล้านบาทที่มีการล็อบบี้จากฝ่ายรัฐบาล และส..ที่ไม่เห็นด้วยอย่างหนัก โดยบรรยากาศนอกห้องประชุมบริเวณห้องรับประทานอาหารของสมาชิก ไม่มีรัฐมนตรีเดินเข้ามาขอเสียงสนับสนุนจากส.. โดยฝ่ายรัฐบาลที่อยู่ที่รัฐสภาในช่วงค่ำ มีเพียง นายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ นายกอร์ปศักดิ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส..นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)

 

 

คาด สภาสูง รับร่างไปแปรญัตติ


ข่าวแจ้งว่า ขณะที่ท่าทีของส.. หลายคนแม้จะไม่เห็นด้วยกับร่างพ... แต่คาดว่า วุฒิสภาจะลงมติรับหลักการร่างไปก่อนเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา โดยมีการเตรียมกมธ.ไว้แล้ว จำนวน 27 คน เพื่อที่จะแปรญัตติ ให้ใกล้เคียงกับร่างพ...งบประมาณรายจ่ายประจำปีให้มากที่สุด คือ ให้มีรายละเอียดของโครงการและหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อตรวจสอบงบประมาณของแต่ละโครงการก่อนอนุมัติ ซึ่งอาจให้ รมว.คลัง และผอ.สำนักงบประมาณ มาร่วมเป็นกมธ.วิสามัญด้วย ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่ยินยอมให้แก้ไข วุฒิสภายังสามารถโหวตไม่เห็นชอบได้ในวาระ 3 ขณะที่หากไม่เห็นชอบร่างในวาระแรก รัฐบาลสามารถนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้ยืนยันร่างได้ทันทีเนื่องจากเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงิน ซึ่งส..หลายคนเห็นว่า อาจไปเข้าทางพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ที่ได้เตรียมโครงการและเตรียมเซ็นสัญญาโครงการไว้แล้วทันทีที่เริ่มปีงบประมาณใหม่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ทำให้ส..ยังปรึกษากันว่า หากผ่านร่างพ...ฉบับนี้จนกฎหมายมีผลบังคับใช้ วุฒิสภาอาจจะเสนอตั้งกมธ.วิสามัญขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินในแต่ละโครงการของหน่วยงาน

 

 

นายกฯ วอน ส.ว.ผ่านร่างพ.ร.บ.กู้เงิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากส.ว.อภิปรายเสร็จสิ้นนานกว่า 10 ชั่วโมง เวลา 20.20 น.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่า แผนการลงทุนของรัฐบาลครั้งนี้เป็นแผนการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ และเอกชนซบเซา จึงจำเป็นที่ภาครัฐต้องเพิ่มบทบาท ทั้งอัดฉีดระยะสั้น และลงทุนระยะยาว โดยเมื่อรัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินกลับไปในระบบแล้ว จะทำให้ภาคเอกชนมั่นใจขึ้น และมีชีวิตชีวาในการเข้ามาร่วมลงทุน ส่วนที่ต้องกู้เงินโดยการทำเป็นพ.ร.บ. เพราะ ในส่วนพ.ร.ก. เริ่มดำเนินการแล้ว อยู่ในชั้นสำนักงบประมาณ รอครม.อนุมัติรายโครงการ อย่างไรก็ดี ในการลงทุน ต้องมองยาวๆ ทั้งพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีนี้และปีต่อๆไป รัฐบาลก็ได้ศึกษาความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตมีเม็ดเงินเพียงพอลงทุนหรือไม่ พบว่า ปีงบประมาณนี้ ไม่พอ โดยมีงบลงุทรนเพียง 12.5 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินงบประมาณ ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ที่ 25 เปอร์เซ็นต์อยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากจะเพิ่มเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 54 และ 55 ทำได้ยาก จะไปกินเข้างบรายจ่ายประจำ และเอาเข้าจริงหากรวมงบลงทุน 3 ปีคือปี 53-55 มีเพียง 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งไม่พอในการลงทุน ฉะนั้น จึงต้องกู้ เพื่อมีเม็ดเงิน 1.4 ล้านบาท ซึ่งภาคอุตสาหกรรม ก็ขยับตัวพอใจ และเกิดการจ้างงาน สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ จึงขอให้สมาชิกวางใจรัฐบาลในการใช้จ่ายตามพ.ร.บ.

 


นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ชี้แจงว่า ปัญหาข่าวการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง ขอยืนยันว่า รัฐบาลได้ตรวจสอบเมื่อมีข่าวออกไป ส่วนที่มีการพูดพาดพิงถึงน้องชายตนที่เป็นรองผอ.สพช. (นายประโภชน์ สภาวสุ) ขณะนี้ก็ไม่มีข้อหาที่ชัดเจนเป็นเพียงการพูดพาดพิงถึง ซึ่งน้องชายตนก็เป็นคนที่หลายคนรู้จักดี เพราะเคยเป็น ส.ส. และส.ว. มาก่อน ไ ม่เคยมีประวัติด่างพร้อย และตนก็ไ ด้ขอให้มาช่วยงาน แค่ตำแหน่งรอง ผอ.ในโครงการนี้ เงินเดือนก็ไม่มาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้น น้องชายตนก็ได้เข้าไปตรวจสอบทันที และได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ขอยืนยันว่าโครงการนี้จำเป็นต้องเดินหน้าต่อไ ป และวันนี้มีการเสนอโครงการมาที้งสิ้น 6.3 หมี่นโครงการ รวมวงเงิน 5,300 ล้านบาท จากโครงการที่ตั้งงบไว้ทั้งหมด 2.1 ล้านบาท

 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า รัฐบาลยินดีรับฟังที่ส.ว.อภิปราย เพราะเป็นหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งนี้ ในแง่ภาพรวมแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ยืนยันว่า หากเปรียบเทียบกับไฟไหม้ สิ่งที่ดีที่สุดคือ ช่วยเหลือผู้คนดับไฟและวางรากฐานสำหรับอนาคต ก็ทำตั้งแต่ งบประมาณเพิ่มเติมกลางปี มาวันนี้ แผนไทยเข้มแข็งก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกับการวางรากฐานในอนาคต

 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แผนไทยเข้มแข็งที่เลือกโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก กระจายทั้งประเทศ เพื่อการจ้างงานทั้งประเทศ ถ้าเป็นโครงการขนาดใหญ่จะมีปัญหาเช่น มวลชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งถ้าทำขนาดเล็กแบบกระจายมั่นใจว่าจะมีการสร้างงาน และให้สามารถทำได้ทันทีเพื่อให้ทันการณ์ มี 7 กรอบ เช่น แหล่งน้ำการเกษตร ถนนหนทางก็เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ แหล่งท่องเที่ยว การศึกษา ซึ่งมียุทธศาสตร์ภาพใหญ่ ไม่ได้ทำไปแบบไม่มีทิศทาง อย่างไรก็ดี ข้อสังเกตทั้งหลาย รัฐบาลจะรับไว้และนำไปปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสม ส่วนข้อสงสัยในรายละเอียดของโครงการ หรือข้อข้องใจอื่น ก็ให้ไปพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ ขอให้รับหลักการไว้ก่อน หากไม่รับจะส่งสัญญาณไม่ดีในเรื่องความไม่แน่นอนในแนวทางการแก้ปัญหา

 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการทำตามกฎหมายหรือไม่นั้น ตนเป็นผู้แทนฯตั้งแต่ปี 35 เข้าใจเรื่องนี้ดีว่า ผู้แทนฯย่อมหวงแหนการใช้อำนาจแทนประชาชน ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาเลี่ยงรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายนี้ทำได้ อย่างไรก็ดี ไม่คิดจะทำแบบนี้หากสถานการณ์ปกติ ทั้งนี้ รัฐบาลที่ผ่านมาก็ออกเป็นพ.ร.ก.ตลอด แต่ตนเห็นว่า ตัดบางส่วนที่เร่งด่วนเป็นพ.ร.ก. ที่เหลือให้ทำเป็นพ.ร.บ.เพื่อให้สภาพิจารณา ส่วนทางเลือกอื่นที่ส.ว.เห็นว่า ทำไมไม่ทำเป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม เรื่องนี้เป็นเพราะ ต้องแก้กฎหมายหลายฉบับพร้อมกันคือกฎหมายหนี้สาธารณะและกฎหมายวิธีพิจารณางบประมาณ และมีความไม่แน่นอน ยุ่งยาก ไม่ทันการณ์ ฉะนั้น พวกรายละเอียดโครงการ รัฐบาลพร้อมจะให้ตรวจสอบและให้ความร่วมมือเต็มที่ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากดูรัฐวิสาหกิจ เวลากู้เงินไม่ต้องรายงานต่อสภา แต่เมื่อเป็นหนี้แล้วก็มาขอเงินไปใช้ ซึ่งตนในฐานะส.ส. ก็รู้สึกถูกมัดมือชกมาตลอด เพราะไม่ได้รู้เห็นในการกู้และใช้จ่ายงบประมาณด้วย

 


“ยืนยันว่า มีระเบียบการใช้เงินชัด ได้แก่ โยกย้ายข้ามหน่วยงานไม่ได้ เงินเหลือต้องคืนคลัง จะนำไปใช้โครงการอื่นไม่ได้ การขออำนาจไปไม่ได้หมายความว่า จะต้องใช้เงินทั้งหมด เราจะไม่กู้มากงอเป็นภาระ จะกู้เมื่อพร้อมจะจ่ายโครงการนั้นๆตามความจำเป็นและมีขั้นมีตอน ส่วนที่ห่วงเรื่องการคอรัปชั่น ในอดีตที่ผมยังเป็นฝ่ายค้าน มีคนถามว่า ถ้ามีอำนาจแล้วจะรับประกันได้หรือไม่ว่า จะไม่มีการคอรัปชั่นเกิดขึ้น ผมตอบว่า ไม่รับประกันว่าจะแก้ได้ทั้งหมด แต่ผมเชื่อว่าถ้าผู้นำเป็นตัวอย่างที่ดี ช่วยกันดูแลรัดกุม การทุจริตจะมีน้อย แต่ถ้ามี อย่างปัญหาเรื่องชุมชนพอเพียง มีปัญหา 50 ล้าน แต่ไม่ได้หมายความว่า โครงการ 5 หมื่นล้านไม่ดี และที่มีข่าวว่า นักการเมืองท้องถิ่นในพรรคไปเกี่ยวข้อง ก็ตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว ไม่ปล่อยไว้แน่ และจะแจ้งป.ป.ช.ด้วย ขอความกรุณาสมาชิกให้เครื่องมือเพื่อให้รัฐบาลไปดำเนินการในโครงการตามที่วางแผนไว้เพื่อให้เกิดการสร้างงานและแก้เศรษฐกิจด้วยเพราะเป็นภาวะไม่ปกติ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


ผลโหวต สภาสูง ผ่านร่างท่วมท้น 110 ต่อ 21

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเป็นการลงมติ ปรากฏว่า ที่ประชุมวุฒิสภามีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน ด้วยคะแนน110 ต่อ 21 งดออกเสียง 9 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากนั้น มีมติตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง จำนวน 27 คน มีสัดส่วนจากรัฐบาล 5 คน อาทิ นายกอร์ปศักดิ์ นายกรณ์ เป็นต้น ส.ว. 22 คน อาทิ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี นายประสิทธิ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี กำหนดแปรญัตติ 7 วัน และปิดประชุมเวลา 21.25 น.

 

 


 




 


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1249885183&grpid=no&catid=01
 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • "เรืองไกร"เชื่อสภาสูงผ่านพ.ร.บ.กู้เงิน หวังแก้ไขโครงการชัดเจน
  • เรืองไกรเตรียมฟ้องศาลรธน.หยุดพ.ร.บ.กู้เงินถ้าส.ว.เห็นชอบ
  • "สุเทพ"ไม่กังวล ส.ว.คว่ำ พ.ร.บ.เงิ้นกู้4แสนล้านพร้อมยื่นใหม่ รองปธ.วุฒิเผย61 ส.ว.ถกชี้เสียงก้ำกึ่ง
  • ปชป.เผยรบ.พร้อมแจง ยันไม่ล็อบบี้ส.ว.โหวตผ่านพ.ร.บ.กู้เงิน
  • ปชป.บอกถ้าวุฒิสภาคิดถึงชาติต้องไม่คว่ำพ.ร.บ.กู้เงิน4แสนล้าน
  • รองปธ.วุฒิฯเตือนรบ.แจงให้ชัดพ.ร.บ.กู้เงิน หลังส.ว.เสียงก้ำกึ่ง
  • วิปรบ.เชื่อพ.ร.บ.กู้เงินไร้ปัญหา พร้อมแจงวุฒิสภาทุกเรื่อง


  • --
          Weblink
    http://ilaw.or.th
    www.patani-conference.net
    http://www.thaihof.org
    http://thainetizen.org
    http://www.ictforall.org
    http://elibrary.nfe.go.th
    http://www.thaisara.com
    http://www.rmutr.ac.th
    http://www.bedo.or.th/default.aspx
    http://weblogcamp2009.blogspot.com
    http://seminarmon.blogspot.com
    http://seminartue.blogspot.com
    http://seminarwed.blogspot.com
    http://seminarthu.blogspot.com
    http://seminarfri.blogspot.com
    http://seminar1951.blogspot.com
    http://seminardd.com

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น