ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อนาถ"ย้อมแมว" ขายรถ"นวดสีข้าว" ทาสี-ปะผุ-ของเก่าสนิมจับ ยัดชาวบ้านราคา 2.5 แสน โครงการพอเพียงเจ้าเก่า


--
      Weblinkวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11495 มติชนรายวัน


อนาถ"ย้อมแมว" ขายรถ"นวดสีข้าว"


ทาสี-ปะผุ-ของเก่าสนิมจับ ยัดชาวบ้านราคา 2.5 แสน โครงการพอเพียงเจ้าเก่า




รถ"พอเพียง" - สภาพรถนวดสีข้าวตามโครงการชุมชนพอเพียง ที่ชุมชนแห่งหนึ่งใน ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จัดซื้อผ่านนายหน้าที่รับเดินเรื่องเร่งการอนุมัติงบประมาณให้ เพื่อแลกกับการจัดซื้อรถจากห้างร้านที่นำไปเสนอ ปรากฏว่าชุมชนได้รถเก่าย้อมแม้วทาสีใหม่ ห้องคนขับ (ภาพเล็ก) บ่งบอกชัดเจนว่าใช้งานมานาน ขณะที่ราคาสูงถึงคันละ 2.5 แสนบาท

โครงการ ชุมชนอื้อฉาวอีก ชาวชัยภูมิเสียรู้นายหน้าหลอก มีเส้นสายใน สพช.ช่วยเดินเรื่องอนุมัติงบฯชุมชนพอเพียงให้ได้ ครั้นยอมซื้อ"รถนวดสีข้าว"2.5แสนบาท วันไปรับสินค้าถึงกับอึ้ง เจอรถเก่าย้อมแมวทาสีให้ดูเหมือนใหม่มาขายให้ราคาแพงเกินจริง แถมเครื่องยนต์คนละยี่ห้อกับตัวถัง เผยซื้อจากร้านค้า "พ."ในโคราช

โครงการ ชุมชนพอเพียงของสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน หรือ สพช.ยังคงอื้อฉาวต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้พบความไม่ชอบมาพากลในหลายพื้นที่ ล่าสุดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานโครงการใน จ.ชัยภูมิ ไม่เพียงแต่มีนายหน้าบริษัทอาศัยข้อมูลวงในไปทำโครงการขายปุ๋ยอินทรีย์ สำเร็จรูปให้ชุมชนเท่านั้น หากยังพบพฤติกรรมนายหน้าบริษัทเอกชนขายเครื่องมือการเกษตรไปเสนอขายสินค้า ให้ชุมชน แลกกับการผลักดันให้ได้รับอนุมัติงบประมาณในโครงการโดยเร็วและที่แย่ไปกว่า นั้นคือ เครื่องมือการเกษตรนอกจากราคาแพงเกินจริง เมื่อไปรับสินค้ากลับกลายเป็นของย้อมแมว "มือสอง" ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว

พฤติกรรม นายหน้าบริษัททำมาหากินกับโครงการชุมชนพอเพียงนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายสมศรี ลุนบง อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 ชุมชนบ้านหนองมะเขือใหม่ ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ว่า มีตัวแทนจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมาพบที่บ้าน บอกว่าได้รับทราบข้อมูลมาว่าชุมชนของตนมีโครงการที่จะจัดซื้อรถนวดสีข้าว มาใช้งาน หากชุมชนตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า กับบริษัทจะเดินเรื่องให้ สพช.อนุมัติงบประมาณมาให้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน ตอนแรกที่ตัวแทนบริษัทมาติดต่อ รู้สึกประหลาดใจมากว่า ทำไมถึงทราบว่าชุมชนเสนอโครงการซื้อรถนวดสีข้าว มิหนำซ้ำยังบอกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องโครงการ จะไปจัดการให้ แต่กรรมการชุมชนไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตอนนั้นกังวลเพียงอย่างเดียวว่า โครงการที่เสนอไปแล้วจะได้รับอนุมัติงบฯล่าช้า เนื่องจากผ่านไปหลายเดือนแล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าทางการจะอนุมัติให้ จึงตัดสินใจสั่งซื้อสินค้ากับบริษัทแห่งนี้ และบริษัทก็ดำเนินการได้จริงๆ หลังจากผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ ทางชุมชนได้รับจดหมายจากทางการแจ้งว่า โครงการได้รับการอนุมัติแล้ว และจะโอนเงินมาให้ 250,000 บาท ตามราคาสินค้าที่เสนอขายพอดี

นายสมศรีกล่าวว่า หลังจากโครงการรถนวดสีข้าวได้รับการอนุมัติ ตัวแทนบริษัทมาพบที่บ้านอีกครั้ง พร้อมพาไปที่สำนักงานบริษัท ที่ ต.โพนทอง อ.เมือง เพื่อให้ดูสินค้าตัวอย่าง พบสำนักงานเป็นเพียงบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง หน้าบ้านไม่มีสินค้ามาวางโชว์ ภายในบ้านมีโต๊ะทำงาน และอุปกรณ์สำนักงานเพียงไม่กี่ชิ้น ตัวแทนอ้างว่าเป็นเพียงสำนักงานชั่วคราวที่ใช้ติดต่อขายสินค้าให้ชุมชนต่างๆ ส่วนสำนักงานใหญ่อยู่ที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นเกลี้ยกล่อมให้ทำสัญญาซื้อขายทันที ไม่นานนัก ตัวแทนบริษัทได้พาไปรับสินค้าที่สำนักงาน

"พอผมเห็นรถนวดสีข้าวของ เขาถึงกับอึ้งเลย เพราะเป็นรถเก่าที่นำมาวางเครื่องทำสีใหม่ และนำเครื่องนวดสีข้าวมาติดตั้งเพิ่มเท่านั้น ราคาไม่น่าจะเกินคันละ 100,000 กว่าบาท พยายามต่อรองขอให้บริษัทลดราคาลงมา ตัวแทนบริษัทอ้างว่าราคาคันละ 250,000 บาท เหมาะสมแล้ว เพราะบริษัทมีต้นทุนในการผลิตสูง แต่พร้อมรับดูแลซ่อมบำรุงให้ในกรณีมีปัญหาใช้งานไม่ได้ เมื่อเขาไม่ยอมลดราคาให้ ผมจำใจรับรถและขับกลับมาที่ชุมชน จนบัดนี้ยังไม่ได้ทดลองใช้งาน เนื่องจากยังไม่ถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เลยนำไปจอดเก็บไว้ เมื่อถึงตอน นั้นหากสินค้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเขาจะส่งคนมาดูแลให้ตามที่รับปากไว้หรือไม่ แต่ถ้ามีปัญหาจริงๆ คงจะถอดเครื่องนวดสีข้าวออกไปก่อน และนำรถไปใช้ขนของในหมู่บ้านเวลามีงานแทน" นายสมศรีกล่าว

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพรถนวดสีข้าวคันดังกล่าวพบว่า เป็นรถ 6 ล้อเก่าที่นำมาปะผุ และทาสีใหม่ อุปกรณ์ภายในรถไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้า พวงมาลัย ล้วนเป็นของเก่าทั้งสิ้น ตัวถังรถระบุว่าเป็นยี่ห้อโตโยต้า แต่เครื่องยนต์กลับเป็นยี่ห้ออีซูซุ 100 L ซึ่งเป็นเครื่องเก่าเช่นกัน และนำเอาเครื่องนวดสีข้าวขนาด 5 ฟุต 76 แรงม้า มาเชื่อมต่อไว้ด้านบนตัวรถ ก่อนทาสีทั้งคันให้เป็นสีฟ้าเพื่อให้รถดูใหม่ จากการตรวจสอบสัญญาซื้อขายที่ชุมชนทำกับบริษัทพบว่า รายชื่อผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาขายให้มีสถานะเป็นเพียงร้านค้าชื่อย่อ "พ" ตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ไม่ใช่ บริษัทมีชื่อเสียงอะไร เมื่อติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุไว้ในสัญญา กลับไม่สามารถติดต่อได้


หน้า 1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น