ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มมร.ขอศาลสั่งสอบเส้นทางเงิน เช่าพระพุทธโสธร-สร้างพระไตรปิฎก8บัญชี พระเทพวิสุทธิกวีรับเครียด-เชื่อแก้ปัญหาได้

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11477 มติชนรายวัน


มมร.ขอศาลสั่งสอบเส้นทางเงิน


เช่าพระพุทธโสธร-สร้างพระไตรปิฎก8บัญชี พระเทพวิสุทธิกวีรับเครียด-เชื่อแก้ปัญหาได้



จากที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบุคคลภายในของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) มีมติเอกฉันท์ให้นำผลสอบสวนเสนอพระเทพปริยัติวิมล อธิการบดี มมร.พิจารณาเห็นชอบปลดออก หรือไล่ออกผู้บริหารระดับสูง 2 ราย และโยกย้ายเจ้าหน้าที่อีก 20 ราย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำชื่อ และตราสัญลักษณ์ของ มมร.และสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปแอบอ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตในโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ และโครงการเชิญชวนเช่าบูชาวัตถุมงคลพระพุทธโสธร "รุ่นเจริญสุข" ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และกรณีลงนามแทนอธิการบดีในหนังสือรับบริจาค และเอกสารต่างๆ ที่ส่งไปยังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนนั้น

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ที่ปรึกษากฎหมายของพระเทพปริยัติวิมล อธิการบดี มมร.เปิดเผยว่า ผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ที่เสนอให้พระเทพปริยัติวิมลลงนามเห็นชอบปลดออก หรือไล่ออกผู้บริหารระดับสูง 2 ราย ขณะนี้อธิการบดียังไม่ได้ลงนาม เพราะต้องมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบคอบอีกครั้ง แต่คาดว่าจะลงนามเร็วๆ นี้ จากนั้นจะเปิดเผยรายชื่อผู้บริหารทั้ง 2 ราย ส่วนการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ 20 ราย เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดี ขณะนี้รายชื่อทั้งหมดส่งถึงอธิการบดีแล้ว เหลือเพียงแค่ลงนามเท่านั้น ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่ทำให้คณะกรรมการชุดนี้มีมติ และชี้มูลว่าผู้บริหารทั้ง 2 รายมีความผิด คือการทำเอกสารเท็จไปขอรับบริจาคเงินจากกองทัพบก ลงนามโดยผู้บริหารระดับสูงของ มมร.เอกสารดังกล่าวระบุว่าโครงการเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2542 แต่ความจริงแล้วเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2549 ที่สำคัญมีการส่งหนังสือแผนการปรับปรุงการใช้งบประมาณไปยัง พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ของ มมร.อยู่บนหนังสือด้วย ทำให้ มมร.เสียหายอย่างมาก

"ผมได้ขอหมายศาลเพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายใน และบุคคลภายนอก ทั้งโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ และโครงการเชิญชวนเช่าบูชาวัตถุมงคลพระพุทธโสธรฯ โดยเฉพาะบัญชีธนาคารต่างๆ ของโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ 8 บัญชี ว่าใครเป็นผู้เบิกถอนเงิน และบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อยืนยันว่าการเปิดบัญชีดังกล่าวไม่เกี่ยวกับ มมร." นายสงกรานต์กล่าว

นายสงกรานต์กล่าวว่า หลัง มมร.ออกมาเปิดเผยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎกฯ และโครงการเชิญชวนเช่าบูชาวัตถุมงคลพระพุทธโสธร รวมทั้ง กรณีเข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดี ส่งผลให้ถูกพระเถระผู้ใหญ่ และนักการเมือง ข่มขู่ และกดดัน มมร.อย่างหนัก เพื่อให้ยุติดำเนินคดีอาญา และแพ่ง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริหาร มมร.และพยานที่เกี่ยวข้อง ดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาคุ้มครองพยานคนสำคัญๆ ของ มมร.

พระเทพวิสุทธิกวี รองอธิการฝ่ายวิชาการ มมร.ในฐานะประธานกรรมการโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ กล่าวว่า พระเทพปริยัติวิมลเคยนิมนต์ไปหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ และบอกว่าให้เลิกโครงการได้หรือไม่ ก็บอกไปว่าได้ เพราะหากจะเลิกจริงๆ ก็เรียกบริษัทผู้จัดสร้างภาพยนตร์เข้ามาคุยได้ และก็ลงนามเลิก หลังจากนั้นไม่มีการหารือกันอีกเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าที่ผ่านมาทำงานเพื่อปกป้องสิ่งภายนอกที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนามาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับมาโดนปัญหาภายใน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาต่างๆ ย่อมแก้ได้ เพราะยังไม่เคยเห็นปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้ ถ้าถามว่าเครียดไหม ต้องมีเครียดบ้าง แต่ไม่มาก เพราะไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก ให้ดำเนินการกันไปก่อน เพราะไม่อยากทำลายสถาบันไปมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ส่งไปยังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในการขอรับบริจาค และขอการสนับสนุนโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ เอกสารส่วนใหญ่ลงนามโดยพระเทพวิสุทธิกวี รองอธิการฝ่ายวิชาการ มมร.เช่น หนังสือเลขที่พิเศษ/2552 ลงวันที่ 8 มิถุนายน ถึง พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รอง ผบ.ทบ.เนื้อหาของหนังสือเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ และของบฯสนับสนุนโครงการ

หน้า 22

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น