ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ซื้อรถยุคขิงแก่ขายพอเพียง กลเวียนเทียน ต้นทุน 5 หมื่นฟันกำไร 2 แสน นายกฯจี้หาต้นตอทุจริตให้ได้


วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11496 มติชนรายวัน


ซื้อรถยุคขิงแก่ขายพอเพียง กลเวียนเทียน


ต้นทุน 5 หมื่นฟันกำไร 2 แสน นายกฯจี้หาต้นตอทุจริตให้ได้




สารพัดเล่ห์ - นายสัญญา หาญพยัคฆ์ ผู้ใหญ่บ้านกรุงภูพา ต.โคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พามาดูรถนวดสีข้าวซึ่งมีบริษัทมาขอซื้อ 50,000 บาท เพื่อนำไปขายต่อในโครงการชุมชนพอเพียงราคา 250,000 บาท ขณะที่ชุมชนบางแห่งโอนเงินไปให้บริษัทนานแล้วแต่ได้รับเฉพาะโครงเครื่องผลิต ปุ๋ยอัดเม็ดเท่านั้น จนบัดนี้ยังไม่ได้รับเครื่องจักรและอุปกรณ์หลักเลย

พบเล่ห์เอกชนกว้านซื้อรถเก่าในโครงการ"อยู่ดีมีสุข" ไปเวียนเทียนขาย"ชุมชนพอเพียง" แถมให้แค่ 5 หมื่น แต่ขาย 2.5 แสน บางชุมชนได้รับของไม่ครบ พท.แฉ 22 ชุมชน"กทม."โดนแก้โครงการ พบนักการเมือง-ขรก.รับเงินแทนชาวบ้าน 9 ล้าน

ความคืบหน้าเกี่ยว กับกรณีตัวแทนบริษัทเอกชนหลายรายเข้าไปทำมาหากินกับโครงการชุมชนพอเพียงโดย มีนักการเมืองท้องถิ่น และ เจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งในสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) ให้ความ ร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพลังงานแสงอาทิตย์ ปุ๋ยอินทรีย์สำเร็จรูป ล่าสุดพบพฤติการณ์ "ย้อมแมว" ขายรถนวดสีข้าวเก่าให้ชุมชนหลายแห่งใน จ.ชัยภูมิ ในราคาแพงคันละ 250,000 บาท นั้น ผู้สื่อข่าว "มติชน" ตรวจสอบที่มาที่ไปของ รถนวดสีข้าวย้อมแมวแล้วยังพบพฤติกรรม "เวียนเทียน" สินค้าอีกด้วย กล่าวคือบริษัทดังกล่าวไปกว้านซื้อรถมาจากชาวบ้านที่ร่วมโครงการ "อยู่ดีมีสุข" สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพื่อนำไปให้ในโครงการชุมชนพอเพียง

พฤติการณ์บริษัทเอกชนกว้านซื้อของเก่าไปเวียนเทียนขายต่อให้โครงการชุมชนพอเพียง ได้รับการเปิดเผยโดยนายสัญญา หาญพยัคฆ์ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านกรุงภูพา หมู่ 13 ต.โคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ว่า ในช่วงที่รัฐบาล (พล.อ.สุรยุทธ์) ดำเนินโครงการ "อยู่ดีมีสุข" ชุมชนกรุงภูพาได้รับอนุมัติโครงการจัดซื้อรถนวดสีข้าวขนาด 5 ฟุต 6 ล้อ เหมือนกับหมู่บ้านหนองมะเขือใหม่ ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ แต่รถนวดสีข้าวที่จัดซื้อมาใช้เป็นรถมือสองที่นำมาประกอบใหม่ราคาคันละ 50,000 บาทเท่านั้น โดยติดต่อขอซื้อจากบริษัทเอกชนรายหนึ่งใน จ.สระบุรี ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้าโครงการชุมชนพอเพียงจะเริ่มต้นขึ้น ตนได้รับการติดต่อจากเอกชนผู้ขายเครื่องมือทางการเกษตรขอซื้อรถนวดสีข้าว จากการสอบถามตัวแทนเอกชนดังกล่าวได้รับแจ้งว่า จะนำรถดังกล่าวไปร่วมโครงการชุมชนพอเพียงของรัฐบาล เนื่องจากมีหลายชุมชนต้องการซื้อเครื่องมือทางการเกษตรประเภทนี้จำนวนมาก

"ผมไม่รู้ว่าเขาเอาข้อมูลจากไหนมาว่าผมมีรถนวดข้าวรุ่นนี้อยู่ แต่ตอนที่เอกชนเหล่านี้เข้ามาติดต่อ เขาบอกว่าจะขอซื้อไปคันละ 5 หมื่นบาท ผมเห็นว่าเป็นราคาที่น้อยเกินไป เพราะผมซื้อรถคันนี้มาคันละ 5 หมื่นบาท ขายไปก็ไม่ได้กำไร แถมเหตุผลของเขาชัดเจนว่าจะเอาไปขายต่อในโครงการชุมชนพอเพียงในราคาสูงๆ ผมเลยไม่อยากยุ่งด้วย เพราะเดี๋ยวมีปัญหาขึ้นมาชุมชนของผมจะเดือดร้อน" นายสัญญากล่าว

นายสัญญากล่าวต่อไปว่า หากเป็นรถ 6 ล้อใหม่ขนาด 5 ฟุต ที่ขายทั่วไปในท้องตลาด ราคาสูงถึง 300,000 -400,000 แสนบาท แต่ถ้าเป็นรถเก่าแล้วนำมาประกอบใหม่ จะตั้งราคาสูงที่สุดไม่น่าจะเกิน 1 แสนกว่าบาทเท่านั้น ขณะที่รถนวดสีข้าวราคาประมาณ 250,000 บาท ปัจจุบันนี้เป็นรถขนาด 8 ฟุต เพราะใช้งานได้ดีและสะดวกกว่า เนื่องจากมีระบบรางมาช่วยเสริม ไม่ต้องใช้วิธีโยนข้าวให้ลำบากเหมือนรถขนาด 5 ฟุต อายุงานก็นานกว่าด้วย

สำหรับการดำเนินงานโครงการชุมชนพอเพียง ของชุมชนบ้านกรุงภูพานั้น ผู้ใหญ่บ้านกรุงภูพากล่าวว่า ได้เสนอโครงการโรงสีข้าวชุมชนไป ภายใต้งบประมาณ 250,000 บาท ปัจจุบันได้รับงบฯแล้ว และกำลังทำสัญญาว่าจ้างบริษัทก่อสร้างตัวอาคาร วางระบบไฟฟ้า พร้อมติดตั้งเครื่องสีข้าว ที่นี่ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะชุมชนใช้วิธีการเปิดให้บริษัทหลายรายมาเสนอเงื่อนไข และเลือกบริษัทที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ก่อนทำสัญญาซื้อขาย จะไปดูสินค้าทั้งหมดด้วยตนเอง หากไม่มีคุณภาพ และราคาแพงเกินจริง จะยกเลิกข้อตกลงทันที

ส่วนการดำเนินงานโครงการชุมชนพอเพียงของ รัฐบาลที่ถูกตั้งข้อสังเกตปัญหาเรื่องการทุจริตอยู่ในขณะนี้ นายสัญญากล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ก็ไม่สามารถทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จได้ เพราะนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เวลารัฐบาลอนุมัติโครงการอะไรมาสักอย่าง จะเห็นบริษัทเอกชนหลายแห่งวิ่งเต้นขายสินค้าในหมู่บ้านกันจนชินตา กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ยิ่งงบฯที่รัฐบาลส่งมาแบบให้เปล่า เวลาจะใช้ชาวบ้านเลยไม่คิดอะไรมาก เพราะถือว่าไม่ใช่เงินของตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลโครงการชุมชนพอเพียงใน ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ พบว่าชุมชนจำนวนมากสั่งซื้อเครื่องมือทางการเกษตรหลายชนิด อาทิ รถอีแต๋น เครื่องผลิตปุ๋ยอัดเม็ด เป็นต้น จากการ พูดคุยกับประธานชุมชนหลายแห่งได้รับการยืนยันเหมือนกันว่าบริษัทหลายรายมาติดต่อขายสินค้าให้ แต่ละรายต่างยืนยันว่าหากซื้อสินค้าของตนจะช่วยให้โครงการได้รับอนุมัติแน่นอน แต่เมื่อได้สินค้ามาปรากฏว่าไม่เพียงแพงเกินจริงเท่านั้น แต่ยังได้ของเก่า เช่น รถ อีแต๋นเก่าทาสีใหม่ ส่วนเครื่องผลิตปุ๋ยอัดเม็ดนั้น ชุมชนบางแห่งโอนเงินให้บริษัทไปหลายสัปดาห์แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ได้รับอุปกรณ์เพียงแค่ 2 ชิ้น ซึ่งเป็นโครงเหล็กเปล่าๆ ยังเหลืออีก 2 ชิ้นที่ยังไม่ส่งมาให้ ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้

ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความไม่โปร่งใสในโครงการชุมชนพอเพียงกรณีนำเครื่องนวดสีข้าวเก่ามาขายให้ชุมชนในจ.ชัยภูมิว่า ต้องส่งข้อมูลมา เพราะตอนนี้ได้สั่งระงับโครงการที่มีปัญหาไว้หมดแล้ว ต้องยอมรับว่าปัญหาลักษณะนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงการเงินผัน แต่ต้องดูไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น หากใครเกี่ยวข้องก็ต้องโดนลงโทษ ในอดีตไม่เคยมีใครโดนลงโทษ เลยเป็นปัญหา แต่ขณะนี้มีองค์กรอิสระเข้าตรวจสอบโครงการดังกล่าว อีกทั้งการที่รัฐบาลเปลี่ยนชุดบริหารโครงการ น่าจะให้ความมั่นใจว่าเป็นการเปิดทางให้เข้าไปตรวจสอบในทุกเรื่องได้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คราวนี้หากรัฐบาลจริงจัง การลงโทษก็จะเป็นการปรามในอนาคตต่อไป

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานติดตามการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงในพื้นที่ชุมชน อินทามระ 55 เขตห้วยขวาง มีกรณีส่อทุจริตเปลี่ยนแปลงสิ่งของที่ขออนุมัติจากเครื่องทำไบโอดีเซล งบประมาณ 3 แสนบาท เป็นโคมไฟ 3 ชุด มูลค่าเพียง 1.5 แสนบาท ขอถามว่าเงินอีกครึ่งหายไปไหน นอกจากนั้นใน 22 ชุมชนย่านดินแดง มีการเปลี่ยนแปลงจากห้องเย็นชุมชนเป็นเครื่องทำปุ๋ยและก๊าซชีวภาพ โดย สพช.อนุมัติไปแล้ว 18 ชุมชน เหลือ 4 ชุมชนที่กรรมการและผู้นำชุมชนไม่ยอม ชุมชนดินแดงตั้งอยู่ใจกลาง กทม. ไม่ทำการเกษตร เหตุใด สพช.จึงอนุมัติสิ่งของดังกล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อไปว่า พรรคยังตรวจพบการเปิดบัญชีและถอนเงินไม่เป็นไปตามระเบียบการใช้เงินเป็น มูลค่ากว่า 9.6 ล้านบาท มีผู้รับเงินที่ไม่ใช่กรรมการชุมชน แต่มีนักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ข้าราชการ และธนาคารเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบและปลดนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผอ.สพช.ออกจากตำแหน่งด้วย


หน้า 1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น