ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก"วราเทพ -สมใจนึก-ชัยวัฒน์" 2 ปี คดีหวยบนดิน รอลงอาญา 2 ปี



--
   กลับไป-หน้าก่อนหน้า

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 18:00:16 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก"วราเทพ -สมใจนึก-ชัยวัฒน์" 2 ปี คดีหวยบนดิน รอลงอาญา 2 ปี

คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง   ตัดสินคดีการออกสลากเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ดังนี้

   

ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องครม.แม้ว-บอร์ดสลากกินแบ่งฯ ไม่มีความผิด

  

กรณี  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  สั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว  รอให้จับตัวมาดำเนินดคี  

  

คำพิพากษา ตัดสินลงโทษ จำเลย  3  คน
1.นายวราเทพ รัตนากร"อดีตรมช.คลัง สั่งจำคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท
2.นายสมใจนึก เองตระกูล"อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่ง รัฐบาล และ 
3.นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  โดนโทษจำคุก 2 ปี ปรับ1หมื่นบาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ทั้ง 3 ราย โดยไม่ต้องชดเชยค่าเสียหาย 3.6 หมื่นล้าน

   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมใจนึก ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลได้ออกหมายจับและให้ปรับนายประกัน

 

สำหรับรายชื่อของผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ มีจำนวน 47 คน ประกอบไปด้วย


 1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
 2. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
 3. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
 4. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี
 5. นายกร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี
 6. ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
 7. นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
 8. พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรี (รมว.) ว่าการกระทรวงกลาโหม
 9. ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีต รมว.คลัง
10. นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วย (รมช.) ว่าการกระทรวงการคลัง


11. นายสนธยา คุณปลื้ม อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
12. นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
13. นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์
14. นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์
15. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม
16. นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตรมช.คมนาคม
17. นายนิกร จำนง อดีต รมช.คมนาคม
18. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
19. นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
20. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีต รมว.พลังงาน


21. นายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์
22. นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมช.พาณิชย์
23. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีต รมว.มหาดไทย
24. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม
25. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีต รมว.แรงงาน
26. นางอุไรวรรณ เทียนทอง อดีต รมว.วัฒนธรรม
27. นายพินิจ จารุสมบัติ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
28. นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข
29. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต รมช.สาธารณสุข
30. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.อุตสาหกรรม


31. นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
32. นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง
33. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ในฐานะผู้แทนกระทรวงมหาดไทย
34. นายพรชัย นุชสุวรรณ ในฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
35. นางสาวสุรีพร ดวงโต ในฐานะผู้แทนกรมบัญชีกลาง
36. นายณัฐวิช อินทุภูมิ ในฐานะผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
37. นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
38. นายกำธร ตติยกวี
39. พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้อำนวยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
40. นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ในฐานะผู้แทนกระทรวงมหาดไทย
41. นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ในฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
42. พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์
43. นางสตรี ประทีปปะเสน ในฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
44. นายอำนวยศักดิ์ พูลศิริ
45. พล.ต.ท.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
46. นายบัณฑูร สุภัควณิช ในฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ และ
47. นางอรอนงค์ มณีกาญจน์ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง

  ซึ่งเป็นกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1254308446&grpid=03&catid=00

      Weblink
seminar
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminarsat.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

เจาะขุมข่ายธุรกิจบุญยรัตกลิน รวยจริง ไม่ติงนัง "ขนิษฐา -วิจิตร" 2 น้องสาวบิ๊กบัง ทำธุรกิจเฟอร์ฯ

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 13:49:04 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เจาะขุมข่ายธุรกิจบุญยรัตกลิน รวยจริง ไม่ติงนัง "ขนิษฐา -วิจิตร" 2 น้องสาวบิ๊กบัง ทำธุรกิจเฟอร์ฯ
 

ผลพวงรัฐประหาร 19 กันยายน เศรษฐกิจพังยับ อดีตนายกฯทักษิณ บอกว่า ประเทศไทยได้เศรษฐีใหม่ ยศพลเอก ไม่กี่คน ประชาชาติธุรกิจ ตามไปเจาะถุงเงิน บิ๊กบัง ว่าที่หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เหตุไฉน พลเอก รับแค่เงินเดือน กองทัพ แต่รวยกว่า 95 ล้าน เจาะเครือข่ายธุรกิจ ตระกูลบุญยรัตกลิน เจอ ตัว "ขนิษฐา" น้องสาวประธาน
 คมช.

 ....3  ปี หลังรัฐประหาร 19 กันยายน    พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร    อดีตนายกฯ ออกมาแฉว่า  ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น
     ผลพวง รัฐประหาร ประเทศไทย ได้เศรษฐีใหม่มาไม่กี่คน ...แล้วส่วนใหญ่จะเป็นยศพลเอก
    หนึ่งในพลเอกที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการพาดพิงถึง หนีไม่พ้น หัวหน้าคณะรัฐประหาร
    นั่นคือ  พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน   อดีต ประธานคมช.
    ปลาย กันยายนที่ผ่านมา "พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ "  โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) รับลูกนายใหญ่   
     ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) มีพฤติการณ์ที่ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่


   การยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.สนธิ สมัยดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พบว่า พล.อ.สนธิ มีทรัพย์สิน รวมกับภริยา 2 คน และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คนเป็นเงินรวมกันกว่า 95 ล้านบาท และ พล.อ.สนธิ ยังมีภริยาอีก 1 คน และบุตรอีก 5 คน


   ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า พลเอกแห่ง คมช. เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองชื่อ มาตุภูมิ  เตรียมการเลือกตั้ง สมัยหน้า
   " ประชาชาติธุรกิจ"     ตรวจสอบ ความร่ำรวยของ บิ๊กบัง มานำเสนอผู้อ่าน  ดังนี้ 
     พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ อดีต ประธานคมช.  ยื่นบัญชีทรัพย์สินปปช. ครั้งล่าสุด ( 5 กุมภาพันธ์ 2552 พ้นจากตำแหน่ง ครบ 1 ปี) มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 46.4 ล้านบาท  แบ่งเป็น เงินฝาก 9 บัญชี จำนวน 26.6 ล้านบาท   เงินลงทุน 11.2 ล้านบาท  ที่ดิน 6 แปลง 76 ไร่  รวมมูลค่า 6.3 ล้านบาท   บ้าน 1 หลังมูลค่า 7 แสนบาท  รถยนต์ 1.5 ล้านบาท  มีหนี้สิน เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น  1.2 ล้านบาท
     ขณะที่คู่สมรส นางสุกัลยา แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 15.2 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินฝาก 6 บัญชี 1.6 ล้านบาท   ที่ดิน 4 แปลง  5.2 ล้านบาท บ้าน 2 หลัง รวม 4.2 ล้านบาท 
รถยนต์ 2 คัน 3.5 ล้านบาท  ทรัพย์สินเครื่องประดับ 522,000 บาท
     ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีเงินฝาก 532,313 บาท
     รวมมีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 60.9 ล้านบาท  !!!


     อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น พล.อ.สนธิ และ 2 ภรรยา คือ นางสุกัลยา และนางปิยะดา  บุญยรัตกลิน สร้างความฮือฮา หลังจากแจ้งต่อป.ป.ช.กรณีรับตำแหน่งรองนายกฯ
( 5 ตุลาคม 2550 ) ว่ามีทรัพย์สินรวมกัน ถึง 94.9 ล้านบาท
    โดยเป็นทรัพย์ของ พล.อ.สนธิ 38.7 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝาก  10.2 ล้านบาท เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ สนศ.13.3 ล้านบาท เงินลงทุน 11.2 ล้านบาท บ้าน 1 หลัง 4 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน
    ขณะที่นางสุกัลยา บุญยรัตกลิน ภรรยาคนแรก แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 14.1 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝากธนาคาร 3.9 ล้านบาท ที่ดิน 1 แปลง 1.3 ล้านบาท บ้านอาศัย 2 หลัง 4.2 ล้านบาท รถยนต์ 2 คัน 4.1 ล้านบาท
    ส่วนนางปิยะดา บุญยรัตกลิน ภรรยาคนที่สอง มีทรัพย์สิน  42 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝากธนาคาร 738,784 บาท เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ 6.4 ล้านบาท ที่ดิน 16 แปลง 16.6 ล้านบาท (ป.ป.ช.ตรวจพบ 17 แปลง) บ้าน 2 หลัง 11.7 ล้านบาท ตึกแถว 1 หลัง 2 ล้านบาท รถยนต์ 5 คัน 3.7 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น 815,000 บาท
      และทรัพย์สินของ นางสาวศศิภา บุญยรัตกลิน บุตรสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ 323,702 บาท
     ไม่รวมทรัพย์สินของบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว คือ พ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ร้อยโทสุธาวิทย์ บุญยรัตกลิน เรือโทนิธิ บุญยรัตกลิน นายนิรินทร์ บุญยรัตกลิน และนายเอกรินทร์ บุญยรัตกลิน
    และน้องสาว 4 คน คนแรกชื่อ นางพรทิพย์ ตุลยสวัสดิ์ อายุ 51 ปี คนที่สอง นางขนิษฐา บุญยรัตกลิน  อายุ 49 ปี คนที่สาม นางวิจิตรา บุญยรัตกลิน อายุ 43 ปี และคนที่สี่ นางยุพาวดี บุญยรัตกลิน อายุ 40 ปี และน้องชายชื่อ นายสาธิต บุญยรัตกลิน อายุ 45 ปี


    ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า คนในตระกูลบุญยรัตกลิน มิได้รับราชการอย่างเดียว หากแต่ทำธุรกิจด้วย
    นางขนิษฐา บุญยรัตนกลิน น้องสาวบิ๊กบัง ทำธุรกิจมาตั้งแต่ปลายปี 2538 ร่วมกับ นายมาโนชญ์ ผลทวี ในชื่อ หจก.บายอัส จดทะเบียนวันที่ 8 ธันวาคม 2536 ทุน 1 ล้านบาท รับจ้างออกแบบตกแต่งภายใน-นอกอาคาร ที่ตั้งอยู่ในซอยวัดจันทร์ในถนนรัชดาภิเษก  ปี 2540 มีรายได้ 9.5 แสนบาท กำไรสุทธิ 48,510 บาท มีสินทรัพย์ 1.5 ล้านบาท และมิได้ทำกิจการ
      จากนั้น วันที่ 1 เมษายน 2539 นางขนิษฐาร่วมกับนายมาโนชญ์คนเดิม ก่อตั้งบริษัท บายอัส ไชเน็ท จำกัด ทุน 1 ล้านบาท จำหน่ายงานวัสดุตกแต่งและงานป้าย (ขายส่ง) ที่ตั้งเลขที่เดียวกัน ปี 2540 มีรายได้ 4.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1.7 แสนบาท ปี 2541 มีรายได้ 2.7 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1.87 แสนบาท และเลิกกิจการในปี 2548


     ปัจจุบัน เป็นเจ้าของธุรกิจรับออกแบบและตกแต่งชื่อ บริษัท เอกายไชน์ เฟอร์นิเจอร์ อินดัสเตรียล จำกัด ก่อตั้งวันที่ 22 มกราคม 2547 ทุน 2 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่ในซอยประชาอุทิศ 54 ถนนประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ นางขนิษฐา ถือหุ้น 1,100 หุ้น นายนพดล ยุทธมนตรี นางยุพดี เต นายนพดล บุญยรัตกลิน นายมาโนชญ์ ผลทวี นายศิริพงศ์ เย็นอังกูร และนางสุจิรา โฮวเต็ว คนละ 150 หุ้น หุ้นละ 1,000 บาท ทั้งหมด 2,000 หุ้น
     ปี 2548 มีรายได้ถึง 18.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1.6 ล้านบาท มีสินทรัพย์ 8.9 ล้านบาท
    ขณะที่นางวิจิตรา เป็นเจ้าของบริษัท รัตกลิน จำกัด ก่อตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2548 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจบริการด้านอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยประชาอุทิศ 91/2 ถนนประชาอุทิศ นางวิจิตรา ถือหุ้น 6,500 หุ้น นางสาวพิมพ์ชนก จั่นเพชร 3,000 หุ้น นางพรทิพย์ ตุลยสวัสดิ์ นายจิระศักดิ์ เทพบรรยง นายณัฐพล บุญยรัตนกลิน นางอัญชลี พงษ์พิชัย และนายองอาจ บุญยรัตกลิน คนละ 100 หุ้น รวม 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท ปี 2548 มีรายได้ 5.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 364,529 บาท มีสินทรัพย์ 2.3 ล้านบาท
      ถ้ารวมรายได้บริษัท เอกายไชน์ฯ และบริษัท รัตกลิน ในรอบปี 2548 รายได้ 23.7 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 2 ล้านบาท
      กล่าวสำหรับ นางขนิษฐา ก่อนหน้านี้ ( 17 สิงหาคม 2550)  เคยตกเป็นข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรกัมพูชา จับกุมในข้อหาลักลอบนำรถยนต์วีโก้แค็ป สีน้ำเงิน ทะเบียน ตศ3121 กรุงเทพฯ พวงมาลัยขวา วิ่งข้ามฝั่งจากอรัญประเทศมุ่งหน้าสู่กรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา
       ครั้งนั้น มีข่าวว่านางขนิษฐาเดินทางไปกัมพูชาเพราะเข้าไปรับเหมาตกแต่งร้านให้แก่ บริษัท เดอะพิซซา ซึ่งเข้าไปเปิดสาขาที่กรุงพนมเปญ โดยเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้าไปด้วยตัวเอง ทำเรื่องขออนุญาตผ่านด่านศุลกากรและทำใบขนย้ายสินค้า แต่ไม่ได้ขออนุญาตนำรถยนต์จากฝั่งไทยเข้าไปใช้ในกัมพูชาทำให้ถูกจับ
      เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามข้อเท็จจริงจาก พล.อ.สนธิ ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์ คำตอบที่ได้รับคือ  มีน้องสาวชื่อ "ขนิษฐา" จริง แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากร กัมพูชาจับกุมตัวไว้หรือไม่ และไม่ได้บอกรายละเอียดธุรกิจของน้องสาวแต่อย่างใด
      หลังจากนั้น ชื่อของเธอก็เงียบหายไป จนกระทั่ง พล.อ.สนธิ ได้เปิดเผยในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินว่ามีน้องสาวชื่อ "ขนิษฐา"

-- http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1254286325&grpid=00&catid=00
http://www.kmutnb.ac.th/index.htm
http://www.ecitthai.net
http://www.tourismthailand.org/seminar/
http://www.thaihotels.org/
http://www.tuasso.com/scripts/tua.asp
http://www.bangkokfilm.org
http://www.lek-prapai.org/
http://www.paper4trees.org/index1.htm

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

เปิดวิจัย"ร้อน"ซื้อขาย"เก้าอี้ทองคำ"กระทรวงเกรดA-มีทั้งประมูล-ดาวน์-ซื้อขาด-พ่อค้าวางมัดจำ

 


 
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 20:30:49 น.  มติชนออนไลน์

เปิดวิจัย"ร้อน"ซื้อขาย"เก้าอี้ทองคำ"กระทรวงเกรดA-มีทั้งประมูล-ดาวน์-ซื้อขาด-พ่อค้าวางมัดจำ

ข่าว อื้อฉาวในการซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าฯ ในกระทรวงหมาดไทย หรือ"นายพล"ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การซื้อขาย"เก้าอี้ทองคำ"ในระบบราชการมีจริงหรือไม่ หาคำตอบได้จากผลงานวิจัย"ร้อน"ชิ้นนี้

ข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับนักการเมืองใหญ่ที่ไม่มีในตำแหน่งในรัฐบาล แต่มีอิทธิพลเหนือกระทรวงมหาดไทยเรียกข้าราชการระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และรองอธิบดีประมาณ 20 คนเข้าไปพบเป็นรายตัวและแจ้งให้ทราบว่า ถ้าต้องการตำแหน่งผู้ว่าฯต้องหาเงินสนับสนุนพรรครายละ 10-15 ล้านบาทและช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้ง ถ้ามีการยุบสภา สร้างความเดือดดาลให้แก่นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างมาก อ้างว่า  เป็นการปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคภูมิใจไทย และสั่งหาตัว"ต้นตอ"ในการปล่อยข่าว

 

อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่า นอกจากเรียกเงินจากผู้ที่มีโอกาสได้รับแต่งตั้งจากระดับรองผู้ว่าฯและรองอธิบดีเป็นผู้ว่าฯแล้ว ยังมีการเรียกเงินจากผู้ว่ฯที่ดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว โดยต่อรองว่า ถ้าต้องการอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆต่อไปก็ต้องหาเงินสนับสนุนำพรรคเช่นกัน

 

นอกจากข่าวซื้อชายเก้าอี้ในกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังมีการตั้งอนุกรรมการข้าราชการตำรวจชุดพิเศษขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงเรื่อง การซื้อขายเก้าอี้ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ซึ่งในเบื้องต้นอนุกรรมการฯสรุปผลการสอบสวนว่า มีพิรุธในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจหลายตำแหน่ง

 

เพื่อให้เห็นภาพรวมการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการ "มติชนออนไลน์" ขอนำสรุปรายงานการการวิจัยเรื่อง"การคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการ" โดย ผศ. ดร.ชินนะงษ์ บำรุงทรัพย์ และคณะที่เสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในปี 2546 มานำเสนอ

********************************
การวิจัยนี้เป็นการสำรวจความคิด เห็นของข้าราชการเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการ ข้าราชการที่ให้ข้อมูลอาจจะเป็นข้าราชการที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการซื้อ ขายตำแหน่งด้วยตนเองหรืออาจจะเป็นข้าราชการที่เคยได้ยิน ได้พบเห็น หรือเชื่อว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง


การวิเคราะห์ข้อมูลจึงวิเคราะห์ตามข้อมูลความคิดเห็นที่รวบรวมได้ ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ และข้อมูลเชิงคุณภาพที่ได้จากคำถามปลายเปิดในแบบสอบถามและการสัมภาษณ์เจาะ ลึกจากการศึกษาข้าราชการที่สังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการสำรวจความคิดเห็น ของข้าราชการตั้งแต่ระดับ 7 ขึ้นไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยใช้แบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น 2,668 ราย และโดยการสัมภาษณ์เจาะลึก จำนวน 60 ราย สรุปผลได้ ดังนี้


จากผลการสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการเกี่ยวกับปัจจัยที่เอื้ออำนวย หรือมูลเหตุ/แรงจูงใจ ที่ทำให้มีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในภาพรวมพบว่า ข้าราชการที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยในระดับปานกลางว่า มีปัจจัยที่เอื้ออำนวยหรือมูลเหตุ/แรงจูงใจ ที่ทำให้มีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงาน


แต่เมื่อพิจารณาความคิดเห็นของข้าราชการที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามหน่วยงานพบว่า  ข้าราชการสังกัดสำนักงานตำรวจชาติเห็นด้วยค่อนข้างมากว่า มีปัจจัยที่เอื้ออำนวยหรือมูลเหตุ/แรงจูงใจ ที่ทำให้มีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงาน


ในขณะที่ข้าราชการสังกัดหน่วยงานอื่นๆ ต่างเห็นด้วยในระดับปานกลางว่า มีปัจจัยที่เอื้ออำนวยหรือมูลเหต/แรงจูงใจที่ทำให้มีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงาน


จากผลการสำรวจทัศนคติจของข้าราชการที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นในการ ซื้อขายตำแหน่งในภาพรวมพบว่า ข้าราชการที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติที่ไม่ดีหรือไม่เห็นด้วยต่อการ คอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่ง


แต่เมื่อพิจารณาทัศนคติของข้าราชการที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม หน่วยงาน พบว่า ข้าราชการในเกือบทุกสังกัดมีทัศนคติที่ไม่ดี หรือไม่เห็นด้วยต่อการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่ง

 

ยกเว้นกลุ่มตัวอย่างข้าราชการสังกัดสำนักงานตำรวจ แห่งชาติที่มีทัศนคติต่อการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งที่แตกต่างจากข้า ราชการหน่วยงานอื่น กล่าวถึงมีทัศนคติว่า การคอร์รัปชั่นในบางประเด็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา


จากผลการสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นในการ ซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงานราชการในภาพรวม พบว่า ข้าราชการที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีความคิดว่า มีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงานในระดับค่อนข้างน้อย


แต่เมื่อพิจารณาในแต่ละข้อคำถามพบว่า ข้าราชการส่วนใหญ่เคยได้ยิน/เชื่อ/แน่ใจว่ามีบางคนในหน่วยงานได้รับหรือไม่ได้รับการแต่งตั้ง/โยกย้าย/เลื่อนตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรม หรือใช้ระบบเล่นพรรคเล่นพวก ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก


จากการศึกษาสาเหตุและแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการ พบว่า  1) ค่านิยมทางสังคม 2) โครงสร้างองค์กร 3) ผลประโยชน์ที่ได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อมจากตำแหน่งหน้าที่ 4) ความซื่อสัตว์สุจริตของบุคคล

 

5) ความบกพร่องในระบบการแต่งตั้ง/โยกย้าย/เลื่อนตำแหน่ง 6) การแทรกแซงของนักการเมือง และ 7) สภาวะแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม มีผลที่ทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการ


ในการศึกษาเกี่ยวกับวิธีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการ พบว่า มีวิธีการที่หลากหลายแตกต่างกัน ดังนี้


- ข้าราชการที่ต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง/แต่งตั้ง/โยกย้าย อาจจะติดต่อกับคนใกล้ชิด คนสนิท ของผู้มีอำนาจซึ่งมีทั้งข้าราชการและนักการเมือง


- คนใกล้ชิด คนสนิทของผู้มีอำนาจเป็นผู้ติดต่อกับข้าราชการที่อยู่ในข่ายจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง/แต่งตั้ง/โยกย้าย


- ข้าราชการที่หวังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง/แต่งตั้ง/โยกย้าย พยายามทำตัวใกล้ชิดรับใช้ผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์ดังกล่าว


สำหรับผลประโยชน์ตอบแทนของการซื้อขายตำแหน่ง อาจจะอยู่ในรูปของตัวเงิน ในบางตำแหน่งจะมีการระบุตัวเลขที่ชัดเจน หรืออาจจะเป็นในรูปผลประโยชน์อื่นๆ ดังนี้


- ข้าราชการที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง/แต่งตั้ง/โยกย้าย อาจจะใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งของตนเอื้ออำนวยความสะดวกหรือผลประโยชน์แก่ ผู้มีอำนาจในภายหลัง อาจจะช่วยเหลือเกี่ยวกับการเลือกตั้งถ้าผู้มีอำนาจเป็นนักการเมือง


- การให้ของขวัญ ของกำนับที่มีมูลค่าสูง ในวาระต่างๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันเกิด เป็นต้น


- การใช้ความสนิทสนม คุ้นเคย เข้าไปรับใช้เป็นการส่วนตัว


ในส่วนของเงินที่จะใช้ในการซื้อขายตำแหน่ง ในบางกรณีเป็นเงินของผู้ที่ต้องการซื้อตำแหน่งเอง


แต่สำหรับกรณีที่ตำแหน่งนั้นๆ เป็นตำแหน่งในระดับสูง และถ้าหน่วยงานนั้นๆ เป็นหน่วยงานที่มีโครงการในการจัดซื้อ จัดจ้าง จำนวนมาก และในวงเงินสูง ข้า ราชการที่พยายามจะเข้าสู่ตำแหน่งนั้นๆ จะติดต่อกับพ่อค้า นักธุรกิจที่ประสงค์จะได้ทำงานในโครงการดังกล่าว เพื่อขอให้รวบรวมเงินเพื่อที่จะจ่ายให้แก่ผู้มีอำนาจเป็นการซื้อตำแหน่ง โดยมีข้อตกลงว่า ถ้าได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวก็จะเอื้ออำนวยให้แก่พ่อค้า นักธุรกิจนั้นๆ ได้รับงานของหน่วยงาน


สำหรับผลกระทบของการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการนั้นอาจสรุปได้เป็น 2 ระดับ คือ 


1) ผลกระทบต่อข้าราชการในหน่วยงาน ทำให้ข้าราชการหมดขวัญและกำลังใจในการทำงาน โดยเฉพาะข้าราชการที่มีความตั้งใจในการทำงาน หมดศรัทธาและขาดการยอมรับในตัวผู้บังคับบัญชา ทำให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยเกิดพฤติกรรมเลียนแบบในการซื้อขายตำแหน่ง และทำให้ข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถขาดโอกาศที่จะเจริญก้าวหน้า


และ 2) ผลกระทบต่อระบบราชการโดยรวมเนื่องจากเมื่อมีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่ง แต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง ทำให้ไม่ได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งส่งผลเสียหายต่อระบบราชการ


ในรายการการวิจัยดังกล่าว ยังได้สำรวจวิธีการคอร์รัปชั่นในการซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการแบ่งแยกเป็นกระทรวง ดังต่อไปนี้


กระทรวงมหาดไทย

 

1. การซื้อขายตำแหน่งมักกระทำผ่านคนใกล้ชิด คนสนิท หรือคนที่ไว้วางใจสังเกตเห็นได้จากการที่อธิบดี มักจะแต่งตั้งบุคคลที่ตนเองไว้วางใจมาเป็นผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ ผู้อำนวยการกองคลัง และเลขานุการกรม ทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆ เป็นไปได้โดยง่าย


2. ข้าราชการระดับสูงมักจะมีการซื้อขายตำแหน่งโดยใช้อิทธิพลของนักการเมือง และนักการเมืองเหล่านี้มักต้องการผลประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินทุน หรือพรรคพวกเพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป


3. การให้ของขวัญเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น วันเกิด วันปีใหม่ วันแต่งงานบุตร แต่อาจมีการแนบสิ่งของมีค่า เช่น เงินสด หรือทองคำ


4. วิธีการซื้อขายตำแหน่งมีหลายวิธีตั้งแต่ซื้อขาด ซื้อแบบผ่อนส่งโดยมีเงินดาวน์ (ส่งส่วยกันตลอดชีวิต) ซึ่งคิดว่าไม่มีทางที่จะแก้ไขได้ เพราะผู้มีอำนาจของเมืองไทยประเภทที่ยอมแก้ระบบให้ดีแล้วตัวเองและพวกพ้อง สูญเสียประโยชน์และโอกาสคงหาได้ยาก

 

5.อาศัยความสนิทสนมคุ้นเคยเป็นส่วนตัวกับผู้มีอำนาจ อาศัยความสนิทสนมหรือเป็นญาติกับคนสนิท หรือผู้ติดตามผู้มีอำนาจ อาศัยภรรยาของตนเองเพื่อติดต่อกับภรรยาของผู้มีอำนาจ


6. การยอมรับใช้ในฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง เช่น การหาคะแนนเสียงให้กับผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง


7. อาศัยฝีมือในการปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาการ ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายในงานที่ได้รับมอบโดยไม่ขัดแย้งผู้ บังคับบัญชา หรือขัดแย้งบ้างในบางกรณีที่ขัดกับกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ ความดีความชอบขึ้นอยู่กับความสามารถในการปฏิบัติงานถูกใจผู้บังคับบัญชา หรือความดีความชอบจะได้แก่บุคคลที่ใกล้ชิดและสละเวลาส่วนตัวมาก เช่น ตำแหน่งเลขานุการ หรือผู้ใช้เวลาว่างไปเยี่ยมผู้บังคับบัญชา


8. การซื้อขายตำแหน่งเป็นการสมยอมกันระหว่าง 2 ฝ่าย ส่วนมากจะเป็นนักการเมืองเข้ามาดำเนินการ


กระทรวงศึกษาธิการ


1. ปัจจุบันมีการซื้อขายตำแหน่งต่างๆ กันอย่างแพร่หลายในระบบราชการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งสูงระดับผู้บริหาร จะเกาะติดเหนียวแน่นกับนักการเมือง (ส่วนมากเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศชาติ) ซึ่งแก้ไขได้ยากมาก


2. การใช้ระบบใบฝาก/ใบสั่งจากผู้มีอิทธิพล นักการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร


3. การใช้นายหน้าในการติดต่อซื้อขายตำแหน่งแทนที่จะมีการติดต่อกันโดยตรง


4. การซื้อขายตำแหน่งอาจจะกระทำในรูปของการทำผลประโยชน์ให้ การให้ของขวัญ


5. การดูแลรับรองผู้ใหญ่ระดับสูง  ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการไปตรวจงาน ตรวจเยี่ยม หรือไปเที่ยวเตร่หาความสุขของผู้ใหญ่ เช่น ไปตีกอล์ฟ คนที่หาเงิน (ซึ่งก็คือรีดไถจากพ่อค้า ประชาชน) ได้เก่ง ก็มีสิทธิใกล้ชิดเจ้านาย กลายเป็นมือขวาเจ้านายไม่ต้องทำงานก็ได้ดี ถึงเวลาก็ได้เลื่อนขั้นเป็นกรณีพิเศษ เงินเดือนสูง ก้าวหน้าเร็ว ขณะเดียวกันคนที่ไม่สามารถรีดไถมารับรองผู้ใหญ่ก็ไม่ก้าวหน้า ระบบไปตรวจงานของผู้ใหญ่ไม่มีประโยชน์กับทางราชการ นอกจากประโยชน์กับตัวผู้ใหญ่เอง ได้กิน ได้เที่ยว ได้พักผ่อน ได้ของฝากแพงๆ ดีๆ


6. สามารถหาทุกสิ่งทุกอย่างให้ผู้บังคับบัญชาได้ตามที่ผู้บังคับบัญชาต้องการ แม้จะต้องเสียทรัพย์สินต่างๆ เป็นจำนวนมาก


7. คอยประจบเอาใจผู้บังคับบัญชาเป็นพิเศษ


8. เป็นผู้ที่ใกล้ชิดและคอยรับใช้ผู้ใหญ่ ทำให้มีโอกาสก้าวหน้ากว่าที่ทำงานแต่ในหน้าที่


9. สามารถทำทุกอย่างให้ผู้บังคับบัญชาได้โดยไม่มีข้ออ้าง


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์


1. นักการเมืองใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมากเกินไป นักการเมืองทุกระดับจะมีอิทธิพลเหนือข้าราชการประจำ ผู้ที่ต้องการตำแหน่งจะเข้าหานักการเมืองเพื่อใช้อำนาจบีบผู้บังคับบัญชา


2. การซื้อขายตำแหน่ง จ่ายเป็นเงิน จ่ายเป็นทรัพย์สิน สร้าง/ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ซื้อของมีค่า เพชรแหวนเงินทอง เป็นของกำนัล


3. บุคคลที่มีพรรคพวกมักจะวิ่งเต้น เพื่อให้ได้ตำแหน่งและความก้าวหน้าในชีวิตราชการ เนื่องจากมีข้อเปรียบเทียบว่าบุคคลที่ไม่ได้วิ่งเต้น โอกาสก้าวหน้ามีน้อย จะอาศัยความรู้ ความสามารถโดยเฉพาะอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีผู้บังคับบัญชาคอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ ซึ่งอาจจะมีการตอบแทนเป็นเงินบ้างหรือคอยรับใช้ใกล้ชิด หรือหมั่นให้ของกำนัลแก่ผู้บังคับบัญชา


4. การวิ่งเต้นต้องผ่านหลายด่าน ยิ่งตำแหน่งที่มีช่องทางหาผลประโยชน์จะวิ่งกันหนักและจ่ายหนักด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานการเจ้าหน้าที่ และเลขานุการส่วนตัวของผู้ใหญ่จะทำหน้าที่เป็นกันชนให้ มีเทคนิควิธีการรับผลประโยชน์ที่แยบยลยากแก่การจับผิดได้


5. การแต่งตั้ง โยกย้ายบางตำแหน่งนอกเหนือจากการใช้วิธีเล่นพรรคเล่นพวก ระบบญาติพี่น้อง ต้องการตอบสนองต่อผู้มีอำนาจแล้วยังมีการใช้เงิน รับผลประโยชน์ต่างๆ จากผู้ที่มีอำนาจ เช่น มีการโอนเงินให้ผู้ที่มีอำนาจเป็นงวดๆ หรือผู้ที่มีอำนาจให้ผู้ที่ใกล้ชิดไปดูแลผลประโยชน์ของตน


6. ผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลางมักจะดูแลสนับสนุนบุคคลที่คอยเลี้ยงดูต้อนรับ บริการเวลาไปตรวจราชการต่างจังหวัด เป็นกระบวนการได้มาของตำแหน่ง


7. ทุจริตในการสอบคัดเลือก เช่น ทราบข้อสอบก่อน มีการกำหนดรายชื่อผู้ที่สอบได้ไว้ก่อน


กระทรวงคมนาคม


1. การซื้อขายตำแหน่งทางตรง (เป็นตัวเงิน) โดยจ่ายเป็นค่านายหน้าหรือค่าดำเนินการวิ่งเต้น เจรจา ต่อรอง ส่วนใหญ่เป็นตำแหน่งใหญ่ๆ และเกี่ยวข้องกับการเมือง


2. การซื้อขายตำแหน่งทางอ้อม (เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน) มีมากในระดับหัวหน้าส่วนราชการระดับกลางถึงสูง เกิดขึ้นระหว่างผู้วิ่งเต้นต้องการตำแหน่งกับเจ้านายระดับสูงกลุ่มพ่อค้าผล ประโยชน์


3. การเข้าหาผู้บริหารระดับสูง หรือนักการเมืองเพื่อขอการสนับสนุน และอาจมีการมอบของกำนับเป็นสิ่งตอบแทน หรือการสัญญาว่าจะกระทำการใดๆ อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ให้การสนับสนุน


4. การซื้อขายตำแหน่งมักจะมีผู้แทนของผู้ที่มีอำนาจรับหน้าที่เป็นผู้ติดต่อและ ประสานงานเพื่อเรียกรับเงินจากผู้ซื้อตำแหน่ง และกลุ่มนักการเมืองหรือธุรกิจการเมือง ซึ่งอาจจะไม่เป็นตัวเงินแต่เป็นประโยชน์ตอบแทนอื่นๆ เช่น เมื่อ วิ่งเต้นได้ตำแหน่งก็จะดูแลเจ้านายเป็นอย่างดีในลักษณะอุปถัมภ์ค้ำจุน คอยให้ความสะดวกทุกเรื่องหรือช่วยวิ่งเต้นในเรื่องการของบประมาณ


กระทรวงสาธารณสุข


1. การซื้อขายตำแหน่งจะมีคนกลางหรือหน้าม้าเป็นผู้ติดต่อ โดยแต่ละตำแหน่งจะกำหนดราคาไว้มักจะได้ยินจะเป็นในวงการข้าราชการตำรวจ และในวงการอื่นๆ บางครั้งตำแหน่งนั้นถูกหลายคนหมายปองก็จะมีการแข่งราคากัน (โดยผ่านคนกลาง) ผู้ใดให้ราคาสูงกว่าก็จะได้ตำแหน่งนั้น


2. นักการเมืองมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพื่อเอื้อประโยชน์กัน


กระทรวงการคลัง


1. มีการแต่งตั้งไว้ก่อนที่จะมีการสอบ ซึ่งอาจจะเป็นไปตามคำขอ การฝากของผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า เช่น รัฐมนตรี นักการเมือง หรือผู้ที่มีอิทธิพล


2. คณะกรรมการที่ออกข้อสอบบางท่านได้มีการเปิดเผยข้อสอบให้แก่บุคคลที่จะสอบทราบก่อน


3. แก้คำตอบของข้อสอบจากผิดให้เป็นถูกในขั้นตอนการป้อนคำตอบใส่คอมพิวเตอร์


4. การวิ่งเต้นผ่านนักการเมือง


5. สร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย หรือบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ โดย การเสนอเงินให้โดยถูกต้องตามกฎหมาย (เช่น ในรูปเงินสินบนรางวัล) หรือหากให้ได้รับตำแหน่งสูงขึ้นจะตอบแทนโดยการดูแลค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้ มีอำนาจและครอบครัวใน ทุกๆ เรื่อง หรือการขอให้โยกย้ายไปอยู่ในที่ที่ดีมีเงินทองที่สนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมได้


6. ผู้ใกล้ชิดหรือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้เนื้อเชื่อใจเป็นผู้ดำเนินการจัดหาติดต่อรวบรวมโดย มีกลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจ เป็นผู้สนับสนุนออกทุนให้ ผลประโยชน์ที่ผู้สนับสนุนได้รับ เช่น สัมปทานนำสินค้าเข้าโดยเสียภาษีเพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือจะแบ่งกันไปตามสัดส่วน


7. บางครั้งเงินก็ไม่ใช่ปัจจัยที่ใช้ในการแต่งตั้งโยกย้ายยังมีวิธีการอื่นๆ เช่น ให้ของฝากที่มีราคาแพง พาไปตีกอล์ฟเมืองนอก เป็นต้น


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


1. การซื้อขายตำแหน่งผู้ที่มีบทบาทมากที่สุด คือ นักการ เมืองระดับชาติ เมื่อเข้าไปในรัฐบาลก็จะปูพื้นฐานทางการเมืองโดยวิธีแต่งตั้งคนของตนเองรอง รับฐานเสียงไว้ผลประโยชน์ที่นักการเมืองรับจากข้าราชการประจำไม่ได้รับคราว เดียวในวันที่รับตำแหน่งแต่จะรับในรูปแบบให้บริการอื่นๆ


2. ปัจจุบันข้าราชการตำแหน่งจะวิ่งเข้าหานักการเมืองเพื่อหวังประโยชน์ในการ แต่งตั้งและมักจะได้ผลเพราะผู้บังคับบัญชาระดับสูงบางนายก็มาจากนักการเมือง สนับสนุนหรือเกรงอำนาจนักการเมืองซึ่งอาจจะถูกโยกย้าย หากไม่ปฏิบัติตามความประสงค์ของนักการเมือง


3. นักการเมืองใช้อำนาจที่ตนมีอยู่สนั่งการผู้บังคับบัญชาให้แต่งตั้งบุคคลที่ ตนต้องการสนับสนุน หากไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกกลั่นแกล้งกล่าวหาในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นธรรมเนียมที่ให้ข้าราชการต้องปฏิบัติอย่างนั้น เพื่อความอยู่รอดของตนเอง


4. ผู้ที่มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง ใช้อำนาจหน้าที่อย่างไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม มักใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อสร้างกฎให้ปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจและ ป้องกันการตรวจสอบ


5. การติดต่อซื้อขายตำแหน่งเริ่มจากติดต่อกับผู้รู้จักกับเจ้านายก่อน เพื่อให้ประสานงานให้ หากตกลงหรือรับเงื่อนไขได้ ก็จะดำเนินการต่อไปจนได้รับแต่งตั้ง/โยกย้าย


6. การซื้อขายตำแหน่งปัจจุบันมักจะเป็นกลุ่มพ่อค้าที่เข้าไปคลุกคลีเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนให้พ้นจากการจับกุม โดยช่วยเหลือเรื่องเงินมาตลอด เมื่อตำรวจให้ความช่วยเหลือกลุ่มพ่อค้าเหล่านี้ก็จะให้ความช่วยเหลือโดยวิ่งเต้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้


7. เมื่อประมาณ 10 ปี ที่ผ่านมาจะมอบสินบนหรือน้ำใจให้ไปทั้งหมด เมื่อได้รับการแต่งตั้งซึ่งเป็นการตอบแทนเด็ดขาดไม่มีข้อผูกพันต่อกัน หลังจากนั้นจึงมีการเปลี่ยนไปเป็นให้เงินก้อนแต่จำนวนไม่มาก เมื่อได้ตำแหน่งแล้วจึงผ่อนเป็นรายเดือน จำนวนเงินจะมากหรือน้อยแล้วแต่ตำแหน่ง คล้ายกับซื้อรถยนต์ที่ดาวน์แล้วมาผ่อนต่อ วิธีนี้ทั้งผู้ให้และผู้รับจะชอบเพราะผู้ให้ก็ได้รับความคุ้มครองให้ดำรง ตำแหน่งอยู่เพื่อจะได้มีเงินมาผ่อนต่อไป ผู้รับก็ได้ประโยชน์ตรงไม่ได้มีความรู้สึกว่าได้รับเงินค่าวิ่งเต้นโยกย้าย


8. ในช่วงที่จะมีการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือเลื่อนตำแหน่ง ผู้ที่มีสิทธิทั้งหลายมักใช้วิธีไปคลุกคลีทำความสนิทสนมคุ้นเคย รับใช้ผู้ที่คิดว่าสามารถให้ความช่วยเหลือหรอืแต่งตั้งให้ตนเองหรอืพรรคพวก ได้ โดยเฉพาะนักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูง และเมื่อมีคำสั่งบุคคลเหล่านี้ ก็มักจะมีรายชื่อได้รับการแต่งตั้ง


9. เป็นการสมยอมทั้งฝ่ายมีอำนาจแต่งตั้ง และฝ่ายอยากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น
****

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1252935309&grpid=&catid=02

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ park
http://kbparks.blogspot.com/ kbpark
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/

ป.ป.ช.กทม.เล็งถกนัดแรก สอบ 2 เรื่อง"เรียกรับสินบน"

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11512 มติชนรายวัน


ป.ป.ช.กทม.เล็งถกนัดแรก สอบ 2 เรื่อง"เรียกรับสินบน"




นาย ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 กันยายนนี้ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหาร ราชการกรุงเทพมหานคร (ป.ป.ช.กทม.) จะเรียกประชุม ป.ป.ช.กทม.นัดแรก เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียน 2 เรื่อง ได้แก่
1.ผู้บริหารของโรงเรียนสังกัด กทม.เรียกรับเงินจากผู้ปกครองเพื่อให้นักเรียนในสังกัด กทม.สามารถผ่านการประเมินผลการเรียน
2.ผู้บริหารสำนักงานเขตบางแห่งในกลุ่มเขตกรุงเทพกลาง กรรโชกทรัพย์นักธุรกิจในพื้นที่เป็นเงินหลักล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการเสียภาษี
ส่วนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสำนักงานตลาดนั้น ขณะนี้ยังมีเพียงการร้องเรียนในลักษณะของบัตรสนเท่ห์ แต่ไม่ปรากฏตัวผู้ที่ร้องเรียน ดังนั้นจึงต้องรอบุคคลที่จะยืนยันข้อมูลดังกล่าวก่อนจะนำเข้าสู่การตรวจสอบ ต่อไป

นายธีระชนกล่าวว่า วันเดียวกัน กลุ่มพนักงานสำนักงานตลาดสด กทม. ประมาณ 100 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะผู้บริหาร กทม.กรณีที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 2,000 บาท ทั้งๆ ที่คณะผู้บริหารได้ลงนามอนุมัติแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยแกนนำรายหนึ่ง กล่าวว่า คณะผู้บริหารสำนักงานตลาดสดอาจนำเงินส่วนดังกล่าวไปใช้จ่ายในส่วนอื่นหรือไม่ จึงขอให้มีการตรวจสอบ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้นายปรีชา สุขสนเทศ ผู้อำนวยการสำนักการคลัง ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พร้อมเร่งรัดการเบิกจ่ายให้กับพนักงานผู้มีสิทธิภายในเวลา 10 วัน โดยระหว่างนี้ห้ามให้มีการโยกย้ายการทำงานของพนักงานอย่างเด็ดขาด


หน้า 10

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

ก.ล.ต.เชือดอดีต รมต.ยุคทักษิณ ติดร่างแหแก๊งโกงหุ้น SECC

ก.ล.ต.เชือดอดีต รมต.ยุคทักษิณ ติดร่างแหแก๊งโกงหุ้น SECC
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2552 09:03 น.
 
ก.ล.ต.แจ้งดีเอสไอกล่าวโทษอดีตผู้บริหาร SECC เพิ่มเติมอีก 6 ประเด็น พร้อมพ่วงผู้ร่วมทุจริตอีก 6 คนร่วมเป็น 7 คน "สุริยา ลาภวิสุทธิสิน" บิ๊กปิกนิก อดีต รมช.ชื่อดังยุคทักษิณ โดนเชือดด้วย
       

       สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมกับนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ อดีตประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือSECC กับพวกเพิ่มเติมอีก 6 ประเด็น รวมทั้งมีผู้ร่วมก่อความผิดเพิ่มด้วย
       
       ก.ล.ต.ระบุว่า นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ กับพวกรวม 5 คน ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2551 กรณีร่วมกันทุจริตยักยอกเงินของบริษัท ด้วยการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ในการสั่งซื้อรถยนต์ที่ไม่มีจริง เพื่อให้บริษัทต้องจ่ายเงินจากบัญชี SECC ให้แก่ตนเองหรือบุคคลอื่น จนทำให้ SECC ได้รับความเสียหายเป้นเงินนับพันล้าน ซึ่งเป็นคดีอื้อฉาวเมื่อปลายปีก่อน
       
       ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้ตรงจสอบเพิ่มเติม พบพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีการทำผิดตามพรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เพิ่มอีกหลายลักษณะ จึงได้กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหารของ SECC และอดีตผู้บริหารบริษัท เอสอีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด (SECC Holding) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยกับพวกรวม 7 ราย ได้แก่ นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์,นายสมชาย ศรีพยัคฆ์,นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน,หม่อมหลวงอภิษฎา ชยางกูร,นางสาวนิภาพร คมกล้า,นายกรวิวัฒน์ วัฒนะธรรมวงศ์ และนางสาวมุทิตา นิลสวัสดิ์ ซึ่งนายสุริยา ลาภวิสุทธิสินนั้น เคยเป็นอดีตรมช.พาณิชย์สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเคยก่อคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการปั่นหุ้นบริษัทปิกนิค ที่ตนเป็นผู้บริหาร
       
       สำหรับ 6 ประเด็นที่กล่าวโทษเพื่อ ได้แก่
1.ทุจริตยักยอกเงินผ่านการให้กู้ยืมของ SECC Holding จำนวน 245 ล้านบาท โดยตรวจสอบพบพยานหลักฐานว่า นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ กับนายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ SECC Holding และนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ได้ร่วมกันยักยอกเงินของ SECC ผ่านการให้กู้ยืมของ SECC Holding แก่บุคคล 4 ราย รวม 245 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ SECC นำไปลงทุนใน SECC Holding และน่าเชื่อว่า ผู้ที่กู้ยืมเงินดังกล่าว ถูกทั้ง3ใช้ชื่อเพื่อปกปิดการยักยอกเงินของตน จึงเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 307, 308,311, 313,315 มาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์ฯ
       
       นอกจากนี้ ยังพบพยานหลักฐานว่า หม่อมหลวงอภิษฎา (เดิมชื่อหม่อมหลวงภัทรวดี) ชยางกูร ซึ่งมีชื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทที่อนุมัติการให้กู้ยืม เป็นผู้ลงนามในเช็คจ่ายเงินให้บุคคลทั้ง 4 รายดังกล่าว ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของ SECC Holding ด้วยความรับผิดชอบและระมัดระวัง จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 89/7 ประกอบมาตรา 89/24 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
 2.ยักยอกเงินฝากของ SECC Holding จำนวน 30 ล้านบาท โดยฝืมือนายสมชาย ศรีพยัคฆ์
 3.ทุจริตยักยอกเงิน 42 ล้านบาทจากบัญชีจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งนายสมพงษ์กระทำการโดย น.ส.นิภาพร คมกล้า และนายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ร่วมมือ
 4ทุจริตโดยยักยอกชุดจดทะเบียนรถยนต์ของบริษัทไปใช้แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งนายสมพงษ์ได้ยักยอกชุดจดทะเบียนรถยนต์ 25 คัน นำไปใช้ค้ำประกันหนี้ส่วนตัว ทำให้ SECC เสียหาย เนื่องจากถูกลูกค้าที่ซื้อรถไป แล้วไม่มีชุดจดทะเบียนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
       
   5.ตกแต่งรายได้ค่าขายรถยนต์ 30 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่ง ก.ล.ต.พบว่านายสมพงษ์และนางสาวนิภาพร คมกล้าร่วมกันลงข้อความเท็จในบัญชี เพื่อลวงผู้ถือหุ้นและบุคคลอื่น และ
   6.อดีตกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในเช็คหรือใบถอนเงินของบริษัทไม่ปฏิบัติ หน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ โดยตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตใน SECC พบการยักยอกเงินที่เกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่นายกรวิวัฒน์ วัฒนะธรรมวงศ์ (เดิมชื่อนายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์) อดีตกรรมการและกรรมการผู้จัดการ และนางสาวมุทิตา นิลสวัสดิ์ อดีตกรรมการ (ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด และประชาสัมพันธ์) ได้ลงนามล่วงหน้าในเช็คหรือลงนามโดยละเลยที่จะตรวจสอบความถูกต้องของรายการ จนทำให้มีการถอนเงินออกจาก SECC ไปเพื่อประโยชน์ของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ หรือบุคคลอื่น และทำให้ SECC เสียหาย
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9520000104954


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ park
http://kbparks.blogspot.com/ kbpark
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ด่วนคะ โปรดส่งต่อและเข้าให้ข้อคิดเห็นในเวบไซด์คะ ประวัติ อ.จงจิตร์



 
From: lee lee <thai9lee@gmail.com>
Date: ก.ย. 8, 2009 5:10 หลังเที่ยง
Subject: : ด่วนคะ โปรดส่งต่อและเข้าให้ข้อคิดเห้นในเวบไซด์คะ ประวัติ อ.จงจิตร์
To: 


 
From: Kamolpan Cheewapantusri <kamolpar@yahoo.com>
Date: 2009/9/8
Subject: ด่วนคะ โปรดส่งต่อและเข้าให้ข้อคิดเห้นในเวบไซด์คะ  ประวัติ อ.จงจิตร์
To:

เรียนท่านที่รักชาติทุกท่าน

อาจารย์  จงจิตร์  สมัคร เลขา ปปช คะ

ช่วยกันสนับนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง ในสถานะการณปัจจุบันต้องได้คนตรง
มั่นคง ไม่อยู่ภายใต้อาณัติใคร

โปรดช่วยกันส่งต่อคะ
ด่วนคะ

พท. พญ กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี


 


 
From:
To: kamolpar@yahoo.com
Sent: Tuesday, September 8, 2009 14:47:44
Subject: ประวัติ อ.จงจิตร์

ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านเว็ปไซต์ http://www.nacc.go.th/pollnacc/main_poll.php

ศ.ดร.จงจิตร์ หิรัญลาภ


     Get your preferred Email name!
Now you can @ymail.com and @rocketmail.com.
http://mail.promotions.yahoo.com/newdomains/aa/




--
      Weblink
seminar
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com