ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

บริษัทขายตู้น้ำมีชื่อโผล่บริจาคหลายหมื่นหนุน"ปชป." สพช.พบ 3 อุปสรรคนายหน้า-ลักไก่-งุบงิบ




วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เวลา 20:01:05 น.  มติชนออนไลน์

บริษัทขายตู้น้ำมีชื่อโผล่บริจาคหลายหมื่นหนุน"ปชป." สพช.พบ 3 อุปสรรคนายหน้า-ลักไก่-งุบงิบ

เผยตั้งแต่ต้นปีมีชื่อบริษัทขายตู้น้ำโครงการพอเพียงบริจาคเงินให้"ปชป."หลายหมื่น สพช.พบ3อุปสรรค หวั่นถูกสวมรอยอีก ปธ.ชุมชนโต้ส.ข.ไม่คิดเล่นการเมือง อ้างเป็นแพะรับบาป กมธ.ป.ป.ช.ซัดฝ่ายค้านมีเอี่ยวด้วยถึงอิดออดให้ข้อมูล

หลังจาก "มติชน" ได้ตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกันระหว่างกลุ่มบริษัทผู้ขายตู้น้ำหยอดเหรียญโซลาร์เซลล์ เครื่องผลิตปุ๋ยชีวภาพ และเตาเผาขยะ ฯลฯ ให้ชุมชนในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และต่างจังหวัดในโครงการชุมชนพอเพียง โดยบริษัท บีเอ็นบี อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้กระจายสินค้าให้บริษัท คาร์เทล เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท เอ็นเนอร์ยี ดีไซน์ คอนเซ็ปต์ เป็นนายหน้านำแคตตาล็อคสินค้าไปเสนอคณะกรรมการชุมชน เมื่อขายได้แล้วก็นำกำไรมาแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน ในขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีราคาแพงเกินจริง อีกทั้งไม่ใช่ความต้องการของประชาคม และได้นำเสนอข่าวต่อเนื่องมาเป็นลำดับนั้น


ล่าสุด "มติชน" ได้ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่า ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2552 บริษัท คาร์เทล เทคโนโลยี จำกัด มีชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำนวนหลายหมื่นบาทอีกด้วย เมื่อรวมยอดบริจาคตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2552 พรรคประชาธิปัตย์ได้รับมากที่สุด 40,343,900 บาท


สำหรับความคืบหน้าหลังจากสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาชุมชน (สพช.) ส่งเจ้าหน้าที่ไปสุ่มตรวจสอบข้อร้องเรียนความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการชุมชนพอเพียงทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดนั้น แหล่งข่าวใน สพช.เปิดเผยผลการตรวจสอบว่า สพช.พบปัญหาเกิดขึ้นจริง 3 รูปแบบ 1.ปรากฏข้อมูลกลุ่มคนบางกลุ่มเข้ามาทำหน้าที่จัดทำโครงการในขั้นตอนเสนอโครงการแทนชุมชน โดยชุมชนมีส่วนร่วมแค่ลงชื่อรับรอง 2.มีหลายชุมชนเสนอโครงการเข้ามาแบบหนึ่ง พอได้รับอนุมัติงบประมาณแล้ว กลับนำงบฯไปทำอีกแบบหนึ่ง 3.การเสนอโครงการไม่ผ่านการทำประชาคมอย่างแท้จริง แต่เป็นแค่การหารือเฉพาะกลุ่ม จากนี้ไป สพช.จะตรวจสอบเชิงลึกว่าใครเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ ในส่วนชาวบ้านซึ่งมีทั้งถูกหลอก และจงใจร่วมทุจริตด้วยนั้น ในกลุ่มแรก สพช.จะหาทางช่วยเหลือหากมีคดีความฟ้องร้องเกิดขึ้น


"สิ่งที่เราเป็นห่วงขณะนี้คือชุมชนที่ยังไม่เสนอโครงการขึ้นมา และอาจมีกลุ่มคนเข้าไปสวมรอย ดังนั้น สพช.จะระดมคนเข้าไปให้ความรู้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้ง 3 ลักษณะขึ้นอีก" แหล่งข่าวกล่าว


ส่วนเรื่องที่นายพงษ์ศักดิ์ วุฒิชัย ส.ข.เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า สาเหตุที่นายอารักษ์ ยงจิรกุลพงศ์ ประธานชุมชนวัดกลาง เขตบางกะปิ ออกมากล่าวหานักการเมืองท้องถิ่นบังคับให้เลือกตู้น้ำหยอดเหรียญ ไม่เช่นนั้นจะถูกโยกงบฯไปลงชุมชนอื่น เนื่องจากนายอารักษ์เตรียมลงเลือกตั้ง ส.ข.ปีหน้า รวมถึงมีญาติทำธุรกิจน้ำดื่มขายในชุมชนนั้น นายอารักษ์ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า ทันทีที่ข่าวนี้ปรากฏออกไป คนชุมชนวัดกลางต่างมึนงง เพราะทุกคนทราบดีว่าความจริงคืออะไร ที่ผ่านมาไม่เคยมีการจัดเวทีประชาคมสอบถามความต้องการของชุมชนเลยว่าต้องการอะไร


"ผมอยู่ในชุมชนนี้มา 40 กว่าปี ไม่คิดเล่นการเมือง และไม่มีญาติทำธุรกิจน้ำดื่ม แม้โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี แต่เมื่อกระบวนการไม่โปร่งใส ชุมชนก็ไม่สบายใจและไม่อยากตกอยู่ในฐานะสมรู้ร่วมคิด จึงต้องออกมาบอกความจริงให้สังคมรับรู้ แต่วันนี้คนทำกลับโยนความผิดมาให้ชุมชนเป็นแพะรับบาป มันไม่ถูก ถ้าเป็นอย่างนี้พวกเราก็รับไม่ได้เหมือนกัน" นายอารักษ์กล่าว  


นายสุมิตร แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สพช. กล่าวปฏิเสธข่าวเจ้าหน้าที่ สพช.กำหนดให้ชุมชนสามัคคีพัฒนา เขตบางกะปิ เลือกสินค้าเพียง 2 ชนิด ว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดทำอย่างนี้ด้วย เนื่องจากมีเพียงพิจารณาอนุมัติโครงการให้ชุมชนเท่านั้น


ทางด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มอิทธิพลกดดันชุมชนทั่วประเทศในลักษณะบังคับซื้อสินค้าซึ่งไม่มีความจำเป็นสำหรับชุมชน และเป็นสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ มีราคาสูง เช่น เครื่องผลิตน้ำดื่มพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องผลิตปุ๋ยและก๊าซชีวภาพ เตาเผาขยะ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ล้วนแล้วแต่มาจากบริษัทในกลุ่มเดียวกัน หากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง ถือเป็นการกระทำที่บิดเบือนวัตถุประสงค์โครงการอย่างร้ายแรง เพราะโครงการต้องการให้ประชาชน "คิดเอง-ทำเอง" เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น แน่นอนว่า รายได้ส่วนนี้ไม่ได้ตกอยู่กับเศรษฐกิจระดับฐานราก 


นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยยังไม่นำข้อมูลมาให้ กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบงบฯโครงการชุมชนพอเพียง สาเหตุที่ไม่กล้ายื่นเพราะไม่ได้มีแค่นักการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่แทบจะทุกพรรค ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เช่นที่ จ.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทยอ้างว่า มีนักการเมืองระดับชาติชื่อย่อ "พ." เข้าไปล็อคสเปคให้เลือกโครงการปุ๋ย พอตรวจสอบไปมาก็ปรากฏว่า มี ส.ส.ฝ่ายค้านใน จ.ชัยภูมิเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ถ้านายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี จริงใจแก้ไขปัญหาทุจริตจริงๆ ควรตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่รอให้ฝ่ายค้านส่งข้อมูลมาอย่างเดียว



 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • กมธ.ป.ป.ช.โวยฝ่ายค้านยึกยักข้อมูลทุจริตชุมชนพอเพียง
  • ส.ข.ปชป.รับเสนอ"ชุมชนพอเพียง"ให้เลือก"ตู้น้ำ-เครื่องทำปุ๋ย" ปราจีนฯแฉอ้างพรรคใหญ่ปลอมเอกสาร
  • http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1248265292&grpid=01&catid=05
    --
    ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
    http://www.sanamluang.bloggang.com
    http://tham-manamai.blogspot.com
    http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
    http://www.parent-youth.net
    http://www.tzuchithailand.org
    http://www.presscouncil.or.th
    http://ilaw.or.th
    www.patani-conference.net
    http://www.thaihof.org
    http://thainetizen.org
    http://www.ictforall.org
    http://elibrary.nfe.go.th
    http://dbd-52.hi5.com
    http://www.thaisara.com
    http://www.rmutr.ac.th
    http://www.bedo.or.th/default.aspx
    www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น