ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บิ๊ก คค.จัดแถวโต้ข่าวไอ้โม่งงาบหัวคิว 25% ท้าบิ๊ก ส.อ.ท.โชว์ใบเสร็จ

บิ๊ก คค.จัดแถวโต้ข่าวไอ้โม่งงาบหัวคิว 25% ท้าบิ๊ก ส.อ.ท.โชว์ใบเสร็จ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2552 16:43 น.
ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม พร้อมใจจัดแถวหน้ากระดาน โต้ข่าวไอ้โม่งเก็บเงินใต้โต๊ะโครงการไทยเข้มแข็ง 20-25% ยันเป็นไปไม่ได้ พร้อมฝากท้าประธาน ส.อ.ท.ให้ข่าวต้องโชว์ใบเสร็จด้วย ไม่ใช่อ้างขึ้นมาลอยๆ แล้วแอบเอาข้อมูลไปฟ้องนายกฯ
    

   
       นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานต่อนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ว่า โครงการไทยเข้มแข็งมีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะในโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ได้รับงบประมาณจากในโครงการของโครงการไทยเข้มแข็งกว่าร้อยละ 20-25 โดยระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากเอกชน หรือหากมีจริง เอกชนที่รายงานต่อนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีหลักฐานมาแสดง
       
       ทั้งนี้ โครงการที่กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบโดยเฉพาะในส่วนของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท นั้น ส่วนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างรวมแล้วกว่า 2,000 โครงการ รวมเป็นเงิน 45,000 ล้านบาท ทำให้โครงการกระจายไปผู้รับเหมาหลายเจ้า และหากมีหลักฐานก็ให้นำมาแสดง เพราะไม่อยากให้พูดอ้างขึ้นมาลอยๆ เพราะทำให้หลายคนเสียหาย
       
       นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโครงการถนนไร้ฝุ่น เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก ทำให้วงเงินก่อสร้างแต่ละโครงการไม่มากอยู่ที่ 20-30 ล้านบาท และกำไรแต่ละโครงการก็ไม่มาก คือ โครงการที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท จะอยู่ที่ร้อยละ 12.5 เกิน 100 ล้านบาท จะอยู่ที่ร้อยละ 9 เท่านั้น และอยากให้ผู้ที่ออกมารายงานนายกรัฐมนตรีแสดงหลักฐานและจะสั่งให้มีการตรวจ สอบข้อเท็จจริงต่อไป
       
       สำหรับการปฏิบัติตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เช่น โครงการถนนไร้ฝุ่น ระยะแรกที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งบรรจุโครงการถนนไร้ฝุ่นของกรมทางหลวงชนบทไว้ในแผนปฏิบัติการกำหนดเวลา ปฏิบัติงาน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2553 – 2555 ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยในวันที่ 17 ตุลาคม 2552 นี้ จะเซ็นสัญญาครบทุกสัญญา ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นกับโครงการดังกล่าว โดยยืนยันว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม
       
       “ยอมรับว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วง เนื่องจากพบว่ามีผู้รับเหมาจำนวนมากที่ยื่นซองเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า ร้อยละ 20-30 ซึ่งวิตกว่าผู้รับเหมาจะประสบปัญหาการขาดทุน และไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้และโครงการอาจไม่แล้วเสร็จ สุดท้ายกรมก็ต้องเข้าไปดำเนินการก่อสร้างต่อ ทำให้ต้องเสียงบประมาณและประชาชนเสียโอกาสใช้ถนนที่มีคุณภาพ”
       
       นอกจากนี้ นายวิชาญ ยังกล่าวในงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมทางหลวงชนบท ครบรอบ 7 ปี โดยระบุว่า กรมจะเร่งยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบทสานต่อนโยบายของรัฐในการสร้างความเข้ม แข็งทุกท้องถิ่น โดยการก่อสร้างโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างชนบทกับเมือง สร้างเส้นทางเลี่ยง-ลัด สร้างถนนตามแนวผังเมือง เพื่อช่วยบรรเทาจราจรในเขตเมือง สร้างเส้นทางเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
       
       ด้าน นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวงทั้งหมดดำเนินการตาม ระเบียบพัสดุมีขั้นตอนการตรวจสอบทุกขั้นตอน การประกวดราคาใช้วิธีการประกวดราคาแบบอิเล็คทรอนิกส์ มั่นใจว่า ไม่มีการเรียกเก็บผลประโยชน์หรือเงินใต้โต๊ะ แน่นอน
       
       โดยโครงการที่อยู่ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งมีวงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท จำนวน 700 โครงการ แต่ละโครงการวงเงินรวมประมาณ 20-30 ล้านบาทเท่านั้น หากมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะเชื่อว่าผู้รับเหมาจะอยู่ไม่ได้ เพราะขาดทุน ดังนั้น เรื่องการแย่งงานและตัดราคาแข่งกันนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะเอกชนต้องคำนึงถึงผลกำไรและความอยู่รอดของบริษัทตนเองด้วย
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น