จากกรณีการปฏิบัติการทำฝนหลวง ของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร 4 วัน 11 เที่ยวบิน ช่วงระหว่างวันที่ 25 มกราคม -18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และ "มติชน" ตรวจสอบพบความผิดปกติในการประมูลจัดซื้อสารยูเรีย 46% N จำนวน 800 ตัน วงเงิน 14 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทำฝนหลวง ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงปี 2552 ที่ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออคชั่น ที่ให้ผู้ประกอบการเข้ามาเสนอราคาแข่งขัน แต่ปรากฏว่ามีเพียงรายเดียว คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ภูมิสวัสดิ์ ยื่นซองเสนอราคา แต่แทนที่สำนักงานปลัดฯ จะยกเลิกเพื่อเปิดประมูลใหม่ กับดำเนินการต่อและอนุมัติให้หจก.ภูมิสวัสดิ์ได้รับงานไปนั้น
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าว "มติชน" รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า หจก.ภูมิสวัสดิ์ ถูกจดทะเบียนจัดตั้งไว้ถึง 2 แห่ง จากบุคคลสองกลุ่ม โดย หจก.ภูมิสวัสดิ์ แห่งแรก ชื่อภาษาอังกฤษว่า "POOMSAWAT LTD.,PART" จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2534 เลขทะเบียนนิติบุคคล 0103534033166 มีทุนจดทะเบียน 200,000 บาท เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ประกอบกิจการค้ายารักษาและป้องกันโรคสำหรับคนและสัตว์ เครื่องเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ตั้งอยู่ที 542/124 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ปรากฏชื่อนางกัณฑลิก นุพงศ์ และพ.ต.ต.พีระพงค์ ช่างสุพรรณ หุ้นส่วนผู้จัดการ แต่ปัจจุบันจดทะเบียนเลิกกิจการไปแล้ว โดยนายทะเบียนจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2537
ขณะที่ หจก.ภูมิสวัสดิ์ อีกแห่ง มีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า "POOMSAWAS LIMITED PARTNERSHIP" ยังดำเนินกิจการอยู่ จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 เลขทะเบียนนิติบุคคล 0103547026058 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท เป็นธุรกิจขนาดเล็ก เช่นกัน ประเภทธุรกิจคือการประมูลเพื่อขายสินค้าอุปโภค บริโภคสำเร็จรูป วัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร-ค้าปลีก, ค้าส่ง ตั้งอยู่ที่ 225/82 อาคารเบญจศรีวิภาวดี ชั้น 11 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เบอร์โทรศัพท์ 0-2653-4516-19 ปรากฏชื่อนายพงษ์ศิริ จิตรประทักษ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและผู้มีอำนาจ ขณะที่นายอรรถพร โรจน์เอกจิตต์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการอีกรายหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โทรศัพท์ติดต่อไปยัง หจก.ภูมิสวัสดิ์ ที่ยังดำเนินกิจการอยู่ ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้ คือหมายเลข 0-2653-4516 แต่ต้นสายปลายทางที่ได้ยิน เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ ระบุว่าเป็นสถานที่ติดต่อของบริษัทชำนาญกิจ และร้านหนังสือซีพีเอฟบุ๊ค ไม่ใช่ หจก.ภูมิสวัสดิ์ แต่อย่างใด ก่อนจะโอนสายไปยังโอเปอร์เรเตอร์ ทั้งนี้ เมื่อมีผู้รับสาย เป็นหญิงสาวรายหนึ่ง ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า สถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่ หจก.ภูมิสวัสดิ์ และไม่เคยรู้จักชื่อนายพงษ์ศิริ แต่อย่างใด ส่วนที่ตั้งสำนักงานก็อยู่ที่ "พญาไท" ไม่ใช่ "อาคารเบญจศรีวิภาวดี"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้รับการยืนยันข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าว ได้โทรศัพท์ติดต่อกับไปอีกครั้ง โดยใช้หมายเลข 0-2653-4518 ปลายทางที่ได้ยิน เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ ระบุว่าเป็นสถานที่ติดต่อของบริษัท ชำนาญกิจ และร้านหนังสือซีพีเอฟบุ๊ค เช่นกัน แต่ผู้รับสายเป็นหญิงสายรายใหม่ และยืนยันข้อมูลอีกครั้งว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นบริษัทชำนาญกิจ และร้านหนังสือซีพีเอฟบุ๊ค ไม่ใช่ หจก.ภูมิสวัสดิ์ เช่นกัน แต่หญิงคนรายนี้ ยอมรับว่ารู้จักกับนายพงษ์ศิริ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ เป็นสำนักงานรับทำบัญชีให้กับนายพงษ์ศิริ และขอให้ติดต่อมาสอบถามข้อมูลใหม่ในวันที่ 2 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่บริษัทเปิดทำการ ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว ของนายพงษ์ศิริ ก็ได้รับการปฏิเสธ
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานที่ตั้งของ หจก.ภูมิสวัสดิ์ ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าคือ เลขที่ 225/82 อาคารเบญจศรีวิภาวดี ชั้น 11 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 พบว่า สภาพอาคารดังกล่าว เป็นอาคารที่พักอาศัย ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลวิภาวดี และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า เลขที่ที่อยู่ที่ระบุว่า เป็นห้องพักอาศัย ไม่ได้เป็นอาคารสำนักงานบริษัท ที่ประกอบกิจการธุรกิจแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางขึ้นไปตรวจสอบสภาพของ หจก.ภูมิสวัสดิ์ ตามที่แจ้งข้อมูลว่า อยู่ที่ชั้น 11 ก็พบว่า มีสภาพเป็นห้องพักธรรมดา ไม่มีการปิดป้าย หจก.ภูมิสวัสดิ์ ไว้ด้านหน้าแต่อย่างใด โดยป้ายด้านหน้าที่ไว้ป้ายระบุเลขห้องที่ 225/82 เท่านั้น ขณะที่ประตูถูกล็อคกุญแจเอาไว้
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า จากการตรวจพบข้อมูลดังกล่าว ทำให้เป็นที่น่าสังเกตว่า หาก หจก.ภูมิสวัสดิ์ แห่งใดแห่งหนึ่งใน 2 แห่งนี้ เป็นผู้ชนะการประมูลงานจัดซื้อสารยูเรีย 46% N ของสำนักปลัดกระทรวงเกษตรฯ ดังกล่าว ก็ไม่น่าจะมีคุณสมบัติและมีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้ามาประมูลงานได้ และเมื่อชนะการประมูลงานจะนำสินค้าจากแหล่งไหนมาส่งมอบ และในขั้นตอนการประมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมีการตรอบสอบข้อมูลเรื่องนี้ครบถ้วนถูกต้องเพียงพอหรือไม่ ก่อนที่จะอนุมัติรับราคาให้ได้รับงานไป ทั้งที่ เข้ามายื่นซองเสนอราคาเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น
"อยากให้ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ออกมาชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้น จะเกิดความสับสนอย่างมาก และหากมีความผิดปกติจริง ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ จะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ภาพลักษณ์การดำเนินงานเรื่องฝนหลวง ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ เกิดความเสียหาย จากการกระทำของผู้ที่ไม่หวังดี ที่หวังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์แอบหากินจากโครงการพระราชดำริแบบนี้" แหล่งข่าวกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น