ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ทำคดี "บิ๊ก" สตง.ให้กระจ่าง พิสูจน์ ป.ป.ช.2 มาตรฐาน?


คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา

วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 21:04:51 น.  มติชนออนไลน์

ทำคดี "บิ๊ก" สตง.ให้กระจ่าง พิสูจน์ ป.ป.ช.2 มาตรฐาน?

โดย ประสงค์ วิสุทธิ์

บรรดาคดีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และพรรคเพื่อไทยข้องใจว่า การทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้ 2 มาตรฐานดึงเรื่องให้ล่าช้านั้น นอกจากเรื่องการถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและพวกในหลายข้อหาแล้ว 


ยังมีคดีที่มีการกล่าวหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ว่า ทุจริตในหลายเรื่อง


ในคดีคุณหญิงจารุวรรณนั้น แม้กลุ่ม นปช.และพรรคเพื่อไทยไม่ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน  คณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ควรเร่งไต่สวนเพราะ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินและการทุจริตของหน่วยงานรัฐ 


ถ้าผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเองยังถูกกล่าวหา ว่า ทุจริตและไม่ทำความจริงให้กระจ่าง จะมีหน้าไปตรวจสอบและกล่าวหาว่า ผู้อื่นทุจริตได้อย่างไร


ในทางตรงกันข้าม ถ้าผลไต่สวนออกมาว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไม่มีความผิด(ต้องให้สาธารณชนตรวจสอบผลการไต่สวน ได้ด้วย) จะทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเกี่ยวกับคดีความต่างๆอีก


จากคำชี้แจงของคณะกรรมการ ป.ป.ช.พบว่า ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนคุณหญิงจารุวรรณกับพวก 2 เรื่อง(มีนายภักดี โพธิศิริ เป็นประธาน)ดังนี้


หนึ่ง กรณีอนุมัติให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้บริหาร/ผู้เชี่ยวชาญยุคใหม่" และผู้ติดตาม เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประเทศฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์และอิตาลี โดยมีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายโดยมิชอบ


มีการกล่าวหาว่า ในการเดินทางดังกล่าวช่วงพฤศจิกายน 2546  สตง.ได้ขอตั๋วเครื่องบินฟรีไป-กลับจากการบินไทย จำนวน 10 ใบโดยอ้างว่า เพื่อใช้ในการเดินทางไปฝึกอบรม แต่กลับเอาชื่อลูกสาว-น้องสาวของ"บิ๊ก สตง."ไปใส่ในตั๋วฟรี 2 ที่นั่ง และยังเบิกค่าใช้จ่ายในส่วนค่าตั๋วที่ได้ฟรีทั้ง 10 ใบด้วย


สตง. ทำสัญญาจ้างบริษัท คาริสม่า แทรเวล เซอร์วิส เป็นเงิน 3.12 ล้านบาท เป็นผู้ให้บริการนำคณะของ สตง.จำนวน 40 คน ไปดูงานซึ่งในสัญญาระบุว่า ค่าจ้างดังกล่าว รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับโดยสายการบินไทยชั้นนักท่องเที่ยวด้วย


แต่ข้อเท็จจริง มีผู้เดินทางไปกับคณะรวม 42 คนเพิ่มจากที่ระบุไว้ในสัญญาได้แก่ น้องสาวและลูกสาวของ "บิ๊ก สตง." รายดังกล่าว


ตรงนี้มีการกล่าวหาว่า ทั้งๆ ที่ใช้ตั๋วฟรีถึง 10 ใบแต่ไม่มีส่วนลดจาก 3.12 ล้านบาท เพราะเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของลูกสาวและน้องสาว"บิ๊ก สตง."


อย่างไรก็ตามนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส  รองผ้ว่าการตรวจเงินแผ่นชี้แจงว่าไม่มีการอมตั๋วเครื่องบินที่ได้รับมาฟรี แต่อย่างใด แต่เป็นความผิดพลาดในการออกตั๋วของการบินไทยที่นำเอาชื่อของลูกสาวและน้อง สาวไปใส่ในตั๋วที่ฟรีรวมกับเจ้าหน้าที่ของ สตง.อีก 8 คนทั้งที่ ลูกสาวและน้องสาว"บิ๊ก สตง."ได้ชำระเงินค่าตั๋ว 2 ที่นั่งด้วย ทำให้เสียโอกาสไม่ได้รับการสะสมไมล์(ตั๊วกรุ๊ปทัวร์มีสะสมไมล์?)


นายพิศิษฐ์ยืนยันว่า ไม่มีการทุจริตเรื่องนี้โดยดูได้จากการเบิกจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินจาก สตง.ว่า  มีการเบิกจ่ายเพียง 30 คน จากผู้เดินทาง 42 คน


เมื่อดูข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน สามารถตรวจสอบได้จากเอกสารหลักฐาน  เช่น การเบิกจ่ายเงินเงินจาก สตง.ที่จ่ายให้บริษัททัวร์ 3.12 ล้านบาทว่า รวมค่าตั๋ว 40 ใบหรือไม่หรือคิดแค่ 30 ใบ,  ขั้นตอนการออกตั๋วฟรีกับตั๋วซื้อแยกจากกันชัดเจน(ถ้าไม่มีการสั่งให้ส่งชื่อให้จะออกตั๋วฟรีได้อย่างไร)  หลักฐานการจ่ายเงินของลูกสาวและน้องสาว"บิ๊ก สตง."


สอง กรณีการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พักในการจัดอบรมตามโครงการประชุมสัมมนาผู้บริหารที่จังหวัดน่านโดยมิชอบ


มีการกล่าวหาว่า เป็นการจัดสัมมนาบังหน้าเพื่อสามารถเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงได้ เพราะความจริงแล้ววันดังกล่าว สตง.จัดทอดกฐินหลวง แต่การเดินทางไปทอดกฐินหลวงไม่สามารถเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงได้ เลยทำเป็นจัดสัมมนาในวันเดียวกัน แต่ทำเป็นขอยกเลิกในภายหลัง แต่ได้เบิกเบี้ยเลี้ยงเข้ากระเป๋าไปแล้ว


ประเด็นนี้ตรวจสอบได้ง่ายมากว่า มีการจัดกฐินหลวงในวันและสถานที่เดียวกันหรือไม่   มีการเบิกค่าเบี้ยงเลี้ยงอย่างไร น่าจะสามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ในไม่กี่วัน


ที่สำคัญ ถ้าผู้บริหาร สตง.บริสุทธิ์ใจควรให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ในการไต่สวน แต่เท่าที่ทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ไปขอข้อมูล กลับมี"เจ๊"บางคนเรียกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ไปต่อว่า และพูดทำนองว่า มีผู้ร้องเรียน ป.ป.ช.มาที่ สตง.จำนวนมาก แต่ ทาง สตง.เก็บเรื่องไว้ไม่สอบ


การพูดในลักษณะดังกล่าว อาจทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นการ "ทวงบุญคุณ" หรือ "ข่มขู่ทางอ้อม"
 




อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาล รธน.กับการตรวจสอบอำนาจ(ล้นฟ้า) สตง...โดยประสงค์ วิสุทธิ์
อำนาจใหม่ สตง.ขรก.ผวาหนัก..โดย ประสงค์ วิสุทธิ์
ผีซ้ำด้ำพลอย(น้ำลดตอผุด?)ที่ สตง. โดย ประสงค์ วิสุทธิ์
คำชี้แจงจาก สตง.คดีอมตั๋วเครื่องบิน..โดย ประสงค์ วิสุทธิ์
คดี"บิ๊ก สตง."อมตั๋วเครื่องบินพิสูจน์ฝีมือ ป.ป.ช...โดย ประสงค์ วิสุทธิ์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1264766131&grpid=&catid=02

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog

ส.ท.ช.ไม่หยุดนิ่งตามประกบป.ป.ช.คดีคลองด่านใกล้หมดอายุความ.

ส.ท.ช.ไม่หยุดนิ่งตามประกบป.ป.ช.คดีคลองด่านใกล้หมดอายุความ.

 

          ส.ท.ช. เกาะติด ป.ป.ช. อีกรอบ หวังรักษาประโยชน์ให้ประชาชน เร่งรัดคดีคลองด่านมูลค่าเสียหายกว่า 23,000 ล้าน ก่อนคดีจะหมดอายุความในเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมตัดข่าวที่ วิชัย ให้สัมภาษณ์สื่อ ส่งเตือนความจำ รักษาคำพูด

 

          เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา นายไชยนิรันดร์ พยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) พร้อมด้วยกรรมการจำนวนหนึ่ง ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้เร่งรัดดำเนินดคีกับผู้กระทำผิดในคดีทุจริต โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ หรือคดีคลองด่าน ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 23,000 ล้านบาท

          นายไชยนิรันดร์ กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือเสร็จสิ้นว่า ที่ ส.ท.ช. เข้ามายื่นหนังสือในวันนี้  เพื่อทวงถามขอให้ทาง ป.ป.ช. เร่งรัดในคดีคลองด่าน ที่ ใกล้จะหมดอายุความในเดือน มิ.ย. 53 นี้แล้ว ซึ่ง ส.ท.ช. ทราบว่า คดีนี้เป็นคดีอิทธิพล เนื่องจากมีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องหลายท่าน และยังมีอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งเป็นผู้อนุมัติโครงการ มีการกระทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งหลายกรณี  อาทิ 1-ความผิดในฐานะเป็นผู้อนุมัติโครงการ  2-ไม่ผ่านการพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ 3-เป็นผู้เสนอโครงการไปยัง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น เพื่อนำเสนอเข้า ครม.เป็นวาระเพื่อทราบเท่านั้น แต่ไม่ใช่วาระเพื่อพิจารณา  ทั้งๆ ที่ มติ ครม. ระบุชัดว่า  โครงการการลงทุนที่มีมูลค่าเกิน 20,000 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องนำเข้า ครม. เพื่อเป็นวาระพิจารณาเท่านั้น ไม่ใช่วาระเพื่อทราบ

          ที่ผ่านมา เครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) ได้ติดตามการทำงานของ คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ที่มี นายวิชัย วิวิตเสวี เป็นประธานไต่ส่วนในคดีดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่ง ส.ท.ช. ได้เคยยื่นหนังสือเรื่อง ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดในคดีคลองด่าน เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา รวมถึงกรณีที่ นายวิชัย วิวิตเสวี ได้ให้สัมภาษณ์กับ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า

ขณะ นี้ ป.ป.ช. กำลังเร่งดำเนินคดีดังกล่าวอยู่ จะสามารถได้ข้อสรุปก่อนสิ้นเดือน มกราคม 2553 นี้ หรือย่างช้าสุด ระหว่างปลายเดือนมกราคม ถึง ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 นี้อย่างแน่นอน เพราะจะต้องมีการไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายปาก ซึ่งจะได้ข้อสรุปในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างแน่นอน

โดย คดีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เริ่มจากปี 2538 ซึ่งมีอายุความ 15 ปี หมายความว่า คดีดังกล่าว จะหมดอายุความในเดือน มืถุนายน 2553 นี้แล้ว หรือจะเหลือระยะเวลาเพียง 5 เดือนเศษเท่านั้น ส.ท.ช. จึงต้องเร่งรัดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ กล่าวในที่สุด.

http://www.nakkhaothai.com/talkofthetown.php?newsid=121

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กทม.ทุ่ม 70 ล.จัด "อาสาพิทักษ์เมือง" ดูแลคนกรุง

 
กทม.ทุ่ม 70 ล.จัด “อาสาพิทักษ์เมือง” ดูแลคนกรุง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2552 15:24 น.
       กทม.ทุ่มงบ 70 ล้านบาท ดูแลประชาชนผ่านอาสาสมัครพิทักษ์เมือง พร้อมเตรียมใช้คลื่นวิทยุเครือข่ายช่วยตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ อาสา เผย ปีหน้าเห็นได้เห็นผลงาน เล็งตั้งวันพิทักษ์คนเมืองเชิดชูผู้มีจิตอาสา
       
       พล.ต.อ.สวัสดิ์ จำปาศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการอาสาสมัครพิทักษ์คนเมือง เพื่อสร้างเครือข่ายประชาชนในด้านการแจ้งข้อมูลข่าวสาร และช่วยเป็นหูเป็นตาเจ้าหน้าที่ในด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ ในพื้นที่ กทม.ว่า
        
       ขณะนี้การดำเนินงานอยู่ระหว่างการตั้งเรื่องของบประมาณเพื่อมาดำเนิน การ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณ 70 ล้านบาท เนื่องจากต้องมีการจัดอบรมให้กับอาสาสมัครเบื้องต้น 150,000 คน และจัดซื้ออุปกรณ์ติดต่อสื่อสารให้กับกลุ่มเครือข่ายอาสา เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสาร หรือแจ้งเหตุไปยังศูนย์อัมรินทร์ ของ กทม.ได้โดยตรง ซึ่งในการจัดอบรมนั้น กทม.จะเป็นการอบรมตัวแทนของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ เครือข่ายแท็กซี่ เครือข่ายจักรยานยนต์รับจ้าง ชมรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาทิ ตำรวจมาแนะนำวิธีสังเกตคนร้าย หรือผู้ต้องสงสัย แพทย์ หรือพยาบาล แนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
        
       ซึ่งผู้ที่ร่วมเป็นอาสาสมัคร และผ่านการอบรมจะได้รับสวัสดิการต่างๆ อาทิ บัตรรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสังกัด กทม.ฟรี มีประกันชีวิต เป็นต้น ซึ่งการอบรมนั้นตั้งเป้าว่าจะเป็นเดือนละ 2 ครั้ง เบื้องต้นคาดว่าหลังจากเริ่มอบรมแล้ว จะเห็นผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในกลางปี 2553
       
       พล.ต.อ .สวัสดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวยังมีระบบตรวจสอบการทำงานทางสังคมด้วย คือ ได้มีวิทยุเครือข่ายเข้าร่วมโครงการดังกล่าว อาทิ สวพ.91, จ.ส.100, วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งจะมีการรายงานการแจ้งเหตุต่างๆ ให้กับประชาชนทราบ พร้อมประสานขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่เร่งดำเนินการ สังคมก็จะสงสัยว่าเหตุใดไม่ปฏิบัติหน้าที่และจะเกิดการตรวจสอบการทำงานต่อไป ทั้งนี้ ตนคาดว่า หาก กทม.สามารถมีเครือข่ายดูแลคนกรุงเทพฯที่เข้มแข็งแล้วจะเสนอให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.จัดวันพิทักษ์คนเมือง เพื่อเชิดชูผู้ที่มีจิตอาสาและรณรงค์ให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายมาก ขึ้น
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000120852

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บิ๊ก คค.จัดแถวโต้ข่าวไอ้โม่งงาบหัวคิว 25% ท้าบิ๊ก ส.อ.ท.โชว์ใบเสร็จ

บิ๊ก คค.จัดแถวโต้ข่าวไอ้โม่งงาบหัวคิว 25% ท้าบิ๊ก ส.อ.ท.โชว์ใบเสร็จ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2552 16:43 น.
ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม พร้อมใจจัดแถวหน้ากระดาน โต้ข่าวไอ้โม่งเก็บเงินใต้โต๊ะโครงการไทยเข้มแข็ง 20-25% ยันเป็นไปไม่ได้ พร้อมฝากท้าประธาน ส.อ.ท.ให้ข่าวต้องโชว์ใบเสร็จด้วย ไม่ใช่อ้างขึ้นมาลอยๆ แล้วแอบเอาข้อมูลไปฟ้องนายกฯ
    

   
       นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานต่อนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ว่า โครงการไทยเข้มแข็งมีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะในโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ได้รับงบประมาณจากในโครงการของโครงการไทยเข้มแข็งกว่าร้อยละ 20-25 โดยระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากเอกชน หรือหากมีจริง เอกชนที่รายงานต่อนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีหลักฐานมาแสดง
       
       ทั้งนี้ โครงการที่กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบโดยเฉพาะในส่วนของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท นั้น ส่วนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างรวมแล้วกว่า 2,000 โครงการ รวมเป็นเงิน 45,000 ล้านบาท ทำให้โครงการกระจายไปผู้รับเหมาหลายเจ้า และหากมีหลักฐานก็ให้นำมาแสดง เพราะไม่อยากให้พูดอ้างขึ้นมาลอยๆ เพราะทำให้หลายคนเสียหาย
       
       นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโครงการถนนไร้ฝุ่น เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก ทำให้วงเงินก่อสร้างแต่ละโครงการไม่มากอยู่ที่ 20-30 ล้านบาท และกำไรแต่ละโครงการก็ไม่มาก คือ โครงการที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท จะอยู่ที่ร้อยละ 12.5 เกิน 100 ล้านบาท จะอยู่ที่ร้อยละ 9 เท่านั้น และอยากให้ผู้ที่ออกมารายงานนายกรัฐมนตรีแสดงหลักฐานและจะสั่งให้มีการตรวจ สอบข้อเท็จจริงต่อไป
       
       สำหรับการปฏิบัติตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เช่น โครงการถนนไร้ฝุ่น ระยะแรกที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งบรรจุโครงการถนนไร้ฝุ่นของกรมทางหลวงชนบทไว้ในแผนปฏิบัติการกำหนดเวลา ปฏิบัติงาน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2553 – 2555 ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยในวันที่ 17 ตุลาคม 2552 นี้ จะเซ็นสัญญาครบทุกสัญญา ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นกับโครงการดังกล่าว โดยยืนยันว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม
       
       “ยอมรับว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วง เนื่องจากพบว่ามีผู้รับเหมาจำนวนมากที่ยื่นซองเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า ร้อยละ 20-30 ซึ่งวิตกว่าผู้รับเหมาจะประสบปัญหาการขาดทุน และไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้และโครงการอาจไม่แล้วเสร็จ สุดท้ายกรมก็ต้องเข้าไปดำเนินการก่อสร้างต่อ ทำให้ต้องเสียงบประมาณและประชาชนเสียโอกาสใช้ถนนที่มีคุณภาพ”
       
       นอกจากนี้ นายวิชาญ ยังกล่าวในงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมทางหลวงชนบท ครบรอบ 7 ปี โดยระบุว่า กรมจะเร่งยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบทสานต่อนโยบายของรัฐในการสร้างความเข้ม แข็งทุกท้องถิ่น โดยการก่อสร้างโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างชนบทกับเมือง สร้างเส้นทางเลี่ยง-ลัด สร้างถนนตามแนวผังเมือง เพื่อช่วยบรรเทาจราจรในเขตเมือง สร้างเส้นทางเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
       
       ด้าน นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวงทั้งหมดดำเนินการตาม ระเบียบพัสดุมีขั้นตอนการตรวจสอบทุกขั้นตอน การประกวดราคาใช้วิธีการประกวดราคาแบบอิเล็คทรอนิกส์ มั่นใจว่า ไม่มีการเรียกเก็บผลประโยชน์หรือเงินใต้โต๊ะ แน่นอน
       
       โดยโครงการที่อยู่ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งมีวงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท จำนวน 700 โครงการ แต่ละโครงการวงเงินรวมประมาณ 20-30 ล้านบาทเท่านั้น หากมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะเชื่อว่าผู้รับเหมาจะอยู่ไม่ได้ เพราะขาดทุน ดังนั้น เรื่องการแย่งงานและตัดราคาแข่งกันนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะเอกชนต้องคำนึงถึงผลกำไรและความอยู่รอดของบริษัทตนเองด้วย
 

เตรียมเปิดเว็บไซต์รับเรื่องทุจริตในกทม.

เตรียมเปิดเว็บไซต์รับเรื่องทุจริตในกทม.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2552 08:30 น.
       กรรมการ สืบสวนฯ กทม. เตรียมเปิดเว็บไซต์รับเรื่องร้องเรียนทุจริตในกทม. “ธีระชน” เผยแม้ยอมระบุชื่อแต่มีหลักฐานชัดเจนพร้อมตรวจสอบให้ทันที
       
       นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหาร ราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯเตรียม ที่จะเปิดตัวเว็บไซต์เพื่อรับเรื่องร้องเรียน หรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบจากข้าราชการ ลูกจ้างกทม. รวมถึงประชาชนทั่วไปที่พบเห็น เพื่อที่จะใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร หรือแจ้งเบาะแสมายังกรรมการเพื่อให้ตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ทางนายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. และโฆษกกทม. รับเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าวพร้อมกับสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวเว็บไซต์ได้เร็วๆ นี้
       
       นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ใน การทำงานสืบสวนขณะนี้หากผู้ที่ร้องเรียนได้แจ้งเรื่องโดยมีหลักฐานชัดเจน แม้ไม่ได้ระบุถึงชื่อบุคคลที่ร้องเรียน ทางกรรมการสืบสวนฯ พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบให้ทันที ส่วนข้าราชการ หรือลูกจ้างกทม. ก็เช่นเดียวกันหากแจ้งเบาะแสที่เป็นประโยชน์ ทางกรรมการสืบสวนฯ พร้อมที่จะปกป้อง อาทิ การไม่เปิดเผยชื่อ นอกจากนั้นแล้วหากข้าราชการ ลูกจ้างกทม. ต้องการแจ้งเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่ตนหรือนายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพ (ก.ก.) เลขาคณะกรรมการสืบสวนฯ ก็ได้
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000120011

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เข้าร่วมเครือข่ายของSun News บน Windows Live

เข้าร่วมกับเครือข่ายของ Sun News บน Windows Live
 
ดูคำเชิญ
ดูแฟ้มประวัติ
หากยอมรับคำเชิญนี้ คุณจะปรากฏอยู่บนแฟ้มประวัติออนไลน์ของแต่ละฝ่าย และสามารถสนทนากันได้โดยใช้ Windows Live Messenger
เปลี่ยนแปลงผู้ที่สามารถส่งคำเชิญและการร้องขอมาถึงคุณ
Microsoft เคารพสิทธิส่วนบุคคลของคุณ หากต้องการเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม อ่านคำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคลของเรา Windows Live

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ผงะร่างงบฯ ม.นอกระบบ "การเมือง" ซึมรอเขมือบ

 
 ผงะร่างงบฯ ม.นอกระบบ "การเมือง" ซึมรอเขมือบ

ข่าววันที่ 5 ตุลาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

 

** ผงะร่างงบฯม.นอกระบบ  การเมืองซึมรอเขมือบ

 

                ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง นโยบายของรัฐในการสนับสนุนและส่งเสริม มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ตอนหนึ่งเกี่ยวกับร่างระเบียบ ว่าด้วยระบบประเมินผล และการจัดสรรงบประมาณ ของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ว่า ขณะนี้มีข้อห่วงใย คือเรื่องที่มาและองค์ประกอบของคณะกรรมการประเมินผลและจัดสรรงบฯ จำนวน 9 คน เป็นกรรมการ โดยตำแหน่ง 3 คน ได้แก่ ผอ.สำนักงบฯ, เลขาธิการ กกอ. และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ส่วน อีก 6 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ดูแล สกอ.ซึ่งตนได้เห็นร่างฯ แล้วรู้สึกตกใจ เพราะอำนาจการแต่งตั้งเป็นของฝ่ายการเมือง จะทำให้คณะกรรมการนี้ ควบคุมมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ แบบกระดิกตัวไม่ได้

                ผม มาจากฝ่ายการเมืองแท้ๆ เห็นร่างนี้ให้อำนาจนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่ดูแล สกอ.แล้วยังตกใจ เพราะสามารถชี้เป็นชี้ตายมหาวิทยาลัยได้ พอผมทราบเรื่องก็หารือกับนายกฯทันที นายกฯ ก็ตกใจเช่นกันและสั่งชะลอการนำร่างฯ นี้เข้าที่ประชุม ครม. และรับฟังความเห็นจากมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐก่อน ซึ่งผมอยากขอให้เร่งให้ความเห็นภายใน 1 สัปดาห์ เพราะคาดว่าร่างฯ นี้จะเข้า ครม.อีกครั้งกลางเดือน ต.ค.นี้รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=56&nid=47783

--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
chan
http://integration9.blogspot.com/ integration
http://sundara21.blogspot.com/      sandara
http://same111.blogspot.com/        culture
http://sea-canoe.blogspot.com/      seacanoe